ตามรอยซีรี่ย์และการ์ตูนดังไปยังเกาะมอลต้า มนต์เสน่ห์ยุโรปใต้

ใครจะคาดคิดว่าเพียงเพื่อการสร้างภาพยนตร์สักเรื่อง จะต้องเนรมิตฉากที่แสนตระการตาและยิ่งใหญ่ หลายฉากที่สร้างขึ้นมา และถูกรื้อถอนออกไปไป แต่ก็มีบางฉากที่นอกจากจะยังคงอยู่แล้วยังกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวชมได้ด้วย

ณ มอลต้า มนต์เสน่ห์ยุโรปใต้

หลายคนคุ้นหูชื่อประเทศมอลต้าจากภาพยนตร์ไทยเรื่องหนึ่งที่ลงทุนบินลัดฟ้าไปถ่ายทำยังประเทศเล็ก ๆ ในทวีปยุโรป มอลต้าหรือสาธารณรัฐมอลต้าอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และอยู่ทางใต้ของประเทศอิตาลี เป็นเกาะขนาดเล็ก ซึ่งเล็กกว่าสิงคโปร์เสียอีก แต่ความสวยไม่เล็กเพราะความสวยงามของเมืองนี้ก็ระดับเป็นโลเคชันถ่ายทำซี่รี่ย์ดังอย่าง Game of thrones เลยทีเดียว

โดยมอลต้ามีเกาะทั้งหมด 3 เกาะด้วยกัน คือ เกาะมอลต้า (Malta island) เกาะโกโซ (Gozo island) และเกาะโคมิโน (Comino island) โดยมีวัลเลตตา (Valletta) เป็นเมืองหลวง ในอดีตมีการสู้รบกันทำให้ในอดีตมีการสร้างกำแพงสูงใหญ่และยังหลงเหลือร่องรอยอารยธรรมมาถึงปัจจุบัน ภาพที่ตาสองข้างเห็นคือเมืองที่มีสถาปัตยกรรมโบราณ ดูเก่าแก่ ส่วนภาพที่ใจเห็นคือ เหมือนเรากำลังย้อนเวลาไปชมเมืองสมัยศตวรรษที่ 16 เพราะสถาปัตยกรรมเหล่านั้นยังคงอยู่ถึงปัจจุบัน

สถานที่ต่อมาคือ สถานที่ที่หลายคนคุ้นตาจากเรื่อง Game of thrones ซึ่งก็คือเชิงหินที่ตรงกลางทะลุเกือบจะเป็นช่องสี่เหลี่ยม จึงคล้ายกับหน้าต่างบานโตที่ตั้งอยู่ริมทะเลสีน้ำเงินเข้ม โดยเชิงหินนี้ เรียกว่า หน้าต่าง Azure บนเกาะโกโซ ใครมามอลต้าก็จะไม่พลาดมาเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึก แต่น่าเสียดายตอนนี้เชิงหินได้พังลงมา แต่ความสวยงามของประเทศแห่งนี้ไม่ได้มีเท่านี้ สามารถเยี่ยมชมสถานที่อื่น ๆ และทำกิจกรรมต่าง ๆ บนเกาะนี้ได้ เช่น การล่องเรือชมวิวทิวทัศน์ของเกาะ การดำน้ำชมปะการัง เนื่องจากภายใต้ผืนน้ำนี้ยังคงมีรอยแผลแห่งการรบที่จมดิ่งอยู่ใต้ทะเล ผู้คนจึงนิยมดำน้ำลงไปบันทึกประวัติศาสตร์ให้เห็นกับตาตัวเอง กิจกรรมต่อมาคือ แวะขี่ม้าที่ อ่าวโกลเด้น (Golden bay) โดยนักท่องเที่ยวผู้โรแมนติกนิยมขี่ม้าชมพระอาทิตย์ตกดินที่นี่ ถือเป็นการจบวันได้อย่างสวยงาม

แหวกม่านหมู่บ้านป๊อบอาย (Popeyes Village) จากฉากหนังสู่สถานที่ท่องเที่ยว

หมู่บ้านป๊อบอายแห่งมอลต้า ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นฉากหลังของการ์ตูนดังที่ทั่วโลกต่างรู้จัก บ้านที่สร้างขึ้นมาทั้งหมด 19 หลัง แต่ละหลังมีรูปร่างแสนน่ารัก สีสันสดใส เขียวบ้าง ครีมบ้างและสีอื่น ๆ สลับกันไปมาดูแฟนซี ภายในมีรูปปั้นของตัวละครเช่น พระเอกคือตัวป๊อบอายเอง และที่ขาดไม่ได้คือสาวสวยของป๊อบอาย ชื่อ โอลีฟ ตามด้วย ออยล์, บลูโต, สวีทพี และวิมปี ให้ทุกคนได้เก็บภาพกับเหล่าตัวการ์ตูนอมตะแบบแนบชิด และหากใครเป็นสาวกป๊อบอายแล้วล่ะก็ หมู่บ้านแห่งนี้มีพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวของการ์ตูนเรื่องนี้ด้วย หากใครชอบดูแบบภาพยนตร์ด้านในก็มีให้ชม เรียกได้ว่าใครชื่นชอบป๊อบอายหลังจากได้มาที่นี่จะต้องกลับมาอีกอย่างแน่นอน

ใครเป็นสายตามรอยซี่รี่ย์ การ์ตูน หรือหนังเรื่องโปรด คงชื่นชอบหากได้ลองไปสัมผัสกับสถานที่จริงของสิ่งที่ตนชื่นชอบ และหากใครได้มาที่นี่จริง ๆ หรือชอบออกเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วโลก จะพบว่าไม่ว่าจะที่ไหน ๆ ในโลก การเห็นด้วยตาตัวเองย่อมสวยกว่ามองผ่านภาพถ่ายเสมอ