ตลุยรอบเมืองพัทยากับ 3 พิพิธภัณฑ์ที่สาวก IG ต้องไปเช็คอิน

เมืองพัทยาถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศและมีชื่อเสียงไปทั่วโลก ด้วยภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยชายหาดขนาดยาวหลายกิโลเมตร จึงดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเลือกมาคลายร้อนกันที่นี่ แต่ปัจจุบันพัทยาไม่ได้มีดีแค่ชายหาดสวยงามเท่านั้น เมื่อรอบเมืองพัทยาต่างเต็มไปด้วยพิพิธภัณฑ์หลากหลายสไตล์ให้เลือกรับชม และนี่คือ 3 พิพิธภัณฑ์ที่นักท่องเที่ยวผู้รักการถ่ายภาพไม่ควรพลาดเป็นอันขาด

1. Art in Paradise

                Art in Paradise ตั้งอยู่บริเวณพัทยาเหนือ บนถนนพัทยาสาย 2 ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ภาพวาด 3 มิติแห่งแรกของไทยและมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยพื้นที่ 5,800 ตารางเมตร อัดแน่นไปด้วยผลงานมากกว่า 140 ภาพให้นักท่องเที่ยวเลือกถ่ายรูปได้อย่างสนุกสนาน ซึ่งแบ่งออกเป็นหลากหลายโซน ไม่ว่าจะเป็นภาพลวงตา, โลกใต้ทะเล, ป่าซาฟารี, ศิลปะคลาสสิค, สถาปัตยกรรมสมัยอยุธยา, ประเพณีไทย, ยุคอียิปต์ และยุคไดโนเสาร์ โดยแต่ละภาพจะมีคำแนะนำตำแหน่งการยืนให้กับนักท่องเที่ยวเพื่อการถ่ายภาพให้ออกมาสมจริง โดยเปิดบริการนักท่องเที่ยวทุกวันตั้งแต่เวลา 9.00 – 22.30 น. ค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก (ส่วนสูงไม่เกิน 130 ซม.) 100 บาท ส่วนเด็กความสูงต่ำกว่า 100 ซม. เข้าฟรี

2. Teddy Bear Museum

                Teddy Bear Museum ตั้งอยู่ระหว่างพัทยาเหนือและพัทยากลาง ถือเป็นพิพิธภัณฑ์ตุ๊กตาหมีแห่งแรกและแห่งเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมและเก็บภาพคู่กับตุ๊กตาหมีเท็ดดี้แบร์มากกว่า 2,000 ตัวอย่างใกล้ชิดโดยไม่มีกระจกกั้นเหมือนอย่างพิพิธภัณฑ์ตุ๊กตาหมีแห่งอื่นทั่วโลก ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสและกอดตุ๊กตาหมีได้ทุกตัว ซึ่งทางพิพิธภัณฑ์ได้มีการจัดตุ๊กตาหมีไว้หลายโซน ทั้งโซนอินคา, โซนไดโนเสาร์, โซนฟอสซิล, โซนซาฟารี, โซนใต้ท้องทะเล, โซนคริสต์มาส, โซนอวกาศ, โซนเทพนิยาย, โซนจีน, โซนยุโรป, โซนสนุกสนาน และโซนศิลปะ นอกจากนี้ยังมีร้านจำหน่ายของที่ระลึกเป็นตุ๊กตาหมีหลากหลายแบบอีกด้วย ที่นี่เปิดบริการนักท่องเที่ยวทุกวันตั้งแต่เวลา 9.00 – 22.00 น. ค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ 250 บาท เด็ก (ส่วนสูงไม่เกิน 130 ซม.) 150 บาท ส่วนเด็กความสูงต่ำกว่า 90 ซม. เข้าฟรี

3. Louis Tusaud’s Waxworks

                Louis Tusaud’s Waxworks หรือ พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซด์ ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ห้างสรรพสินค้ารอยัลการ์เด้น บริเวณพัทยาใต้ ภายในเป็นศูนย์รวมหุ่นขี้ผึ้งบุคคลที่มีชื่อเสียงทั่วโลกถึง 68 ตัว ซึ่งปั้นได้เหมือนบุคคลจริงทั้งรูปร่างและขนาด นอกจากนั้นยังตกแต่งบรรยากาศด้วยไฟ แสง สี และกลิ่นให้เสมือนได้ใกล้ชิดกับคนดังจากหลากหลายวงการ ไม่ว่าจะเป็นดารานักแสดง, ศิลปินนักร้อง, นักการเมือง และนักกีฬาที่เป็นระดับสตาร์ที่ VWIN การันตีว่าดังจริง รวมไปถึงตัวละครจากภาพยนตร์ดัง โดยนักท่องเที่ยวสามารถกระทบไหล่คนดังชาวไทยได้ถึง 9 คน ได้แก่ ทาทา ยัง, ลูกเกด เมทินี, ภราดร ศรีชาพันธุ์, เขาทราย แกแล็กซี่, แอน ทองประสม, เคน ธีรเดช, แอ๊ด คาราบาว และจา พนม ทางพิพิธภัณฑ์เปิดบริการนักท่องเที่ยวทุกวันตั้งแต่เวลา 9.00 – 23.00 น. ค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ 600 บาท เด็ก 300 บาท

หากมีโอกาสเดินทางไปเที่ยวพัทยาครั้งหน้า อย่าลืมแวะถ่ายภาพที่พิพิธภัณฑ์ทั้ง 3 แห่งข้างต้นอวดเพื่อน ๆ ชาวเน็ต รับรองว่ายอดกดไลค์และคอมเมนต์ถล่มทลายแน่นอน

พัทยาไม่ได้มีดีแค่ทะเลและแสงสี แต่มีสิ่งที่ทำให้ประหลาดใจซ่อนอยู่

                เมืองพัทยา เมืองแห่งท้องทะและแสงสียามค่ำคืนที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย หลายคนมาเพื่ออาบแดด เล่นน้ำทะเล หรือกินอาหารทะเล รวมไปถึงไปเดินที่ walking street ถนนคนเดินที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและ tiffany show โชว์การแสดงสุดแสนอลังการจากสาวประเภทสองที่สวยราวกับผู้หญิงแท้ ๆ แต่ความจริงแล้ว เมืองพัทยายังมีอีกหลายสถานที่ที่น่าสนใจและหาดูได้ยากอย่าง Ripley’s Believe or not พิพิธภัณฑ์ ริบลีส์เชื่อไม่เชื่อนั่นเอง

ริบลีส์ พิพิธภัณฑ์ท้าพิสูจน์ เชื่อไม่เชื่อก็คิดลองดู

                เป็นพิพิธภัณฑ์ที่น่าจับตามองอีกหนึ่งที่สำหรับพิพิธภัณฑ์ ริบลีส์ สถานที่รวบรวมสิ่งของหายาก ลึกลับ และน่าสนใจอยู่มากมาย โดยมีคอนเซ็ปต์ที่ว่า “เชื่อหรือไม่เชื่อ” ซึ่งในพิพิธภัณฑ์ริบลีส์นั้นจะมีสิ่งของต่าง ๆ มากมายตั้งแต่ในสมัยโบราณ รวมไปถึงสิ่งของแปลก ๆ ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีอยู่ในโลก โดยของที่นำมาโชว์นั้นจะมีทั้งที่เป็นของจริง ๆ และที่ทำเป็นแบบจำลองขึ้นมา พร้อมทั้งข้อมูลรายละเอียดของสิ่งของต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น ไข่ของนกช้างที่มีขนาดใหญ่กว่าไข่ไก่ถึง 183 เท่า หัวสองหัว ปลามีขน เรือยักษ์ที่ทำจากไม้จิ้มฟัน หรือแสตมป์รูปแผนที่ประเทศไทยที่เล็กที่สุดในโลก เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีโซนของหุ่นขี้ผึ้งที่ร่วมเอาคนที่มีเชื่อเสียงทั่วโลกมาทำเป็นหุ่นจัดแสดงไว้ให้ได้เข้าไปรับชมได้อีกด้วย

ริบลีส์ไม่ใช่แค่พิพิธภัณฑ์เท่านั้น แต่ยังมีโซนที่เรียกได้ว่าเป็นโซนสวนสนุกของที่นี่ เริ่มจาก Scream in the dark เครื่องเลื่อนที่ให้ผู้เข้าขึ้นไปนั่งบนรถราง และรถก็จะวิ่งเข้าไปในความมืด ซึ่งในที่ที่รถรางวิ่งเข้าไปนั้นก็จะมีสัตว์ประหลาดมากมายรออยู่ เราจะได้ถือปืนเลเซอร์คนละกระบอก เพื่อไว้ยิ่งสัตว์ประหลาดเหล่านั้นเพื่อเก็บคะแนน ต่อมาคือ The Vault Laser Maze Challenge โดยผู้เล่นจะรับบทเป็นขโมยหรือสายลับ ที่จะต้องแอบเข้าไปขโมยเงินที่อยู่ในห้องที่มีการคุ้มกันเป็นเลเซอร์จำนวนมาก โดยสามารถเล่นได้ทั้งแบบเดี่ยวและแบบคู่ กติกาคือต้องไปให้ถึงจุด checkpoint ของเงินให้ได้โดยที่ร่างกายไม่สัมผัสเลเซอร์ เป็นอีกหนึ่งโซนที่สนุกและตื่นเต้นมาก

แน่นอนว่าสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับโซนสวนสนุกของริบลีส์ก็คือบ้านผีสิงริบลีส์นั่นเอง เริ่มตั้งแต่พนักงานต้อนรับหน้าทางเข้าที่แต่งหน้าและแต่งตัวได้สยองเหมือนกับหลุดออกมาจากหนังผีเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ เมื่อเริ่มเข้าไปในบ้านผีสิง ก็จะมีข้อมูลความรู้ต่าง ๆ เกี่ยวกับโรงศพแต่ละประเภทให้ได้ศึกษากัน หลังจากนั้นก็จะถูกพาตัวไปส่งทางเข้าเพื่อเข้าเล่นบ้านผีสิง ผู้เล่นจะได้เจอกับความน่ากลัวหลากหลายรูปแบบ ที่ทั้งตื่นเต้น ตกใจ และหวาดกลัวไปในตัว แฟนบ้านผีสิงห้ามพลาด

หลังจากเล่นน้ำทะเลกันเสร็จแล้ว ก็อย่าลืมลองแวะมาหาประสบการณ์และสิ่งน่าสนใจมากมายได้ที่ Ripley’s Believe or not นอกจากความสนุกและตื่นเต้นแล้ว ยังได้รับความรู้และสิ่งแปลกใหม่ต่าง ๆ ที่คุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน รับรองว่าจะติดใจจนอยากกลับมาเป็นครั้งที่สองแน่นอน