เที่ยวไปกับธรรมชาติเมืองไทย ไปไหนไปกัน

ประเทศไทยนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองสวยและมีธรรมชาติที่งดงาม มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายในประเทศไทย และที่ห้ามพลาดเลยก็คือธรรมชาติในไทยซึ่งมีความหลากหลายไปด้วยทะเล แม่น้ำ ภูเขา ป่าไม้ เรียกได้ว่าเที่ยวที่ไทยจะได้เที่ยวทุกรูปแบบ ลองมาดูกันว่ามีสถานท่องเที่ยวที่ไหนบ้างที่อุดมไปด้วยธรรมชาติ และพร้อมสำหรับการไปพักผ่อนหย่อนใจจากเมืองกรุง

                อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ประจวบคีรีขันธ์

                ด้วยความที่เป็นเทือกเขาที่อยู่ระหว่างพรมแดนของไทยและพม่า อุทยานแห่งชาติกุยบุรีจึงมีพื้นที่ถึง 969 ตารางกิโลเมตร หรือ 605,625 ไร่เลยทีเดียว ถือเป็นแหล่งต้นน้ำสำคัญของประจวบคีรีขันธ์ และยังเป็นป่าอนุรักษ์ที่ค่อนข้างมีความหลากหลายรวมถึงมีสัตว์ป่านานาชนิด เหมาะกับการมาเที่ยวชมเส้นทางธรรมชาติและชมสัตว์ป่าอย่างปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีน้ำตกหลายแห่งในบริเวณนั้นอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นน้ำตกผาสวรรค์ น้ำตกผาหมาหอน และน้ำตกด่านมะค่า และยังมีเต็นท์สำหรับนอนกลางป่าแบบใกล้ชิดกับธรรมชาติสุด ๆ จะไปกับเพื่อนหรือครอบครัวก็น่าสนุกเลยเชียวล่ะ

                เกาะขาม สัตหีบ ชลบุรี

                ลองมาดูธรรมชาติทางทะเลกันบ้าง นอกจากจะไม่ไกลกรุงมากนักแล้ว เกาะขามยังเป็นแหล่งของแนวปะการังที่สมบูรณ์อีกด้วย มีทั้งกิจกรรมดำน้ำไม่ว่าจะเป็นน้ำลึกหรือน้ำตื้น ว่ายน้ำชมฝูงปลาในท้องทะเลรวมถึงสัตว์น้ำชนิดต่าง ๆ อีกมากมาย การเดินทางไปเกาะขามนั้นจำเป็นต้องข้ามเรือไปโดยห่างจากฝั่งไปประมาณ 9 กิโลเมตร และไม่เปิดให้พักแบบค้างแรม สำหรับใครที่อยากเที่ยวแบบเช้าเย็นกลับ การมาเที่ยวเกาะขามก็นับว่าเหมาะเลยทีเดียว

                ถ้ำปะการัง สุราษฎร์ธานี

                ถ้ำปะการังตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาสก ในเขื่อนรัชชประภาหรือเขื่อนเชี่ยวหลานของจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีน้ำไหลผ่านตลอดทั้งปี โดยในถ้ำจะมีทั้งหินงอก หินย้อย ที่แตกหน่อเล็ก ๆ คล้ายกับปะการัง จึงทำให้ที่นี่ถูกเรียกว่าถ้ำปะการัง การเดินทางไปท่องเที่ยวก็จะใช้วิธีเดินป่าตามเส้นทางธรรมชาติ 1.5 กิโลเมตร และนั่งเรือต่อไปถึงทางเข้า เดินต่ออีกไม่ไกล และนั่งแพต่ออีกสักหน่อย ก็จะถึงถ้ำปะการัง และได้เดินชมความสวยงามของหินย้อยธรรมชาติแล้ว

                ป่าชายเลนพันท้ายนรสิงห์ สมุทรสาคร

                นอกจากมาเที่ยวชมธรรมชาติแล้วการมาป่าชายเลนพันท้ายนรสิงห์ยังได้ความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติและได้ศึกษาป่าชายเลนอีกด้วย การเดินทางจะเดินไปตามเส้นทางธรรมชาติที่เป็นสะพานปูน โดยรอบข้างจะมีต้นโกงกางและมีทั้งปลาตีน ปลาหมอ ปลานิล อยู่รอบคลอง นอกจากนี้ยังมีสะพานแขวนสำหรับข้ามคลองไปอีกด้วย ที่สำคัญ ยังสามารถทำกิจกรรมปลูกป่าเพื่อเป็นการอนุรักษ์ได้ด้วยนะ เรียกได้ว่าเป็นการมาเที่ยวเชิงอนุรักษ์ด้วย

                มีสถานที่ธรรมชาติในไทยอีกมากมายที่รอให้คุณไปเที่ยวชม สัมผัสกับความสวยงาม ลองเลือกสถานที่ที่คุณชอบแล้วเริ่มเดินทางกันได้เลย

เที่ยวสวิสเซอร์แลนด์ สวรรค์บนโลกมนุษย์ที่คุณควรเยือนครั้งหนึ่งในชีวิต

ประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามอย่างที่สุดดั่งสวรรค์บนโลกมนุษย์อย่าง สวิสเซอร์แลนด์ เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่คุณควรเก็บไว้ในใจและหาโอกาสไปเที่ยวเยี่ยมเยียนสักครั้งหนึ่งในชีวิตให้ได้ เพราะมนต์เสน่ห์ของประเทศอาจจะทำให้คุณหลงรักจนอยากจะหยุดเวลาเอาไว้ที่นี่เลยทีเดียว

สวิสเซอร์แลนด์มีอะไรดีที่คุณไม่ควรพลาด

                เที่ยวภูเขาเทือกเขา เรียกได้ว่าเป็นซิกเนเจอร์ของการมาเที่ยวยังประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เนื่องด้วยความที่เป็นประเทศเล็ก ๆ ที่อยู่บนที่สูงและไม่มีชายฝั่งติดทะเล ทำให้มีลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาและเทือกเขาที่มีชื่อเสียงและสวยงามจำนวนมาก ตัวอย่างเช่น “Jungfrau ยอดเขายุงเฟรา” ยอดเขาที่หลายคนบอกว่า ถ้าไม่ได้ไปที่นี่เหมือนมาไม่ถึงสวิสเซอร์แลนด์ เพราะเป็นจุด Top of Europe นอกจากความสวยงามของวิวทิวทัศน์และความเป็นสถานที่ยอดนิยมในการเล่นสกีแล้ว ยังมีถ้ำน้ำแข็งแกะสลักสุดงดงามอยู่ใต้ธารน้ำแข็งที่ไม่เคยละลายที่คุณไม่ควรพลาด, “Matterhorn mountain (แมทเธอฮอร์น)” ภูเขารูปทรงปิรามิดตั้งระหว่างประเทศสวิตเซอร์แลนด์และอิตาลี เป็นภูเขาที่มีหิมะปกคลุมตลอดปี และ “Rigi (ริกิ)” ยอดเขาที่ได้ชื่อว่าเป็นราชินีแห่งเทือกเขา Schwyz Alps ด้วยวิวที่สวยงามโดยรอบแบบ 360 องศา ทำให้คุณต้องตะลึงในความสวยงามของภูเขาแห่งนี้

                เที่ยวไปกับสายน้ำ ชาวสวิตเซอร์แลนด์มักมีคำพูดติดปากที่ว่า เราไม่มีทะเลแต่เรามีทะเลสาบ น้ำตก และธารน้ำแข็ง ด้วยความที่สวิสเซอร์แลนด์มีทั้งน้ำตกขนาดใหญ่อย่างน้ำตกไรน์ ธารน้ำแข็งอเล็ท์ชกลาเซียร์ และทะเลสาบหลายแห่งซึ่งล้วนแต่สวยงามสะอาดตาทั้งสิ้น ทำให้สายน้ำเป็นจุดเด่นซึ่งคุณควรเลือกแวะไปพักผ่อนกายใจในทริป ตัวอย่างเช่น “Lake Geneva (ทะเลสาบเจนีวา)” ไข่มุกของริเวียร่าแห่งสวิส เป็นแหล่งน้ำจืดที่ใหญ่เป็นอันดับสองของทวีปยุโรปกลาง ตั้งอยู่ในเมือง Geneva และมีบางส่วนติดกับฝรั่งเศส อีกทั้งมีน้ำพุ Jet d’Eau ซึ่งเป็นน้ำพุขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงเนื่องจากคุณสามารถมองเห็นเปลวน้ำจากทางอากาศและในตัวเมืองได้ และ “Thunersee (ทะเลสาบทูน)” ตั้งอยู่บริเวณใจกลางของ Bernese Oberland เชิงเขาของเทือกเขา Alps ทำให้มีวิวทิวทัศน์ที่สวยตระการตามากจากการที่ทะเลสาบถูกโอบล้อมไปด้วยขุนเขา

                เที่ยวเมืองยุโรปเปี่ยมเสน่ห์ ด้วยความที่ชาวสวิสเซอร์แลนด์ค่อนข้างเคร่งครัดในเรื่องของการดูแลสิ่งแวดล้อม ศิลปะ และวัฒนธรรม ทำให้เมืองต่าง ๆ ค่อนข้างสวยงามและมีเอกลักษณ์เป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าไม่ว่าคุณจะเลือกพักเมืองไหนก็สวยงามน่าค้นหาไม่แพ้กัน ตัวอย่างเช่น “Interlaken(อินเทอร์ลาเก้น)” เป็นเมืองทางผ่านที่จะขึ้นไปยังยอดเขายุงเฟรา มีภูมิทัศน์สุดตระการตาจากการที่เป็นเมืองกึ่งกลางระหว่างทะเลสาบทูนและทะเลสาบบรีนซ์ มีแม่น้ำอาเรเชื่อมทะเลสาบตัดผ่านกลางเมือง และ “Zurich(ซูริค)” เมืองใหญ่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์เป็นทั้งศูนย์กลางคมนาคม แหล่งรวมสถาบันการเงิน โดดเด่นเรื่องพิพิธภัณฑ์ สถาปัตยกรรม และย่านเมืองเก่า

เที่ยวชมทัศนียภาพด้วยรถไฟ เป็นกิจกรรมหลักที่คุณไม่ควรพลาดเพราะการได้นั่งรถไปในสวิตเซอร์แลนด์จะทำให้คุณอยากถึงปลายทางแบบช้าที่สุดเพราะวิวที่สามารถมองผ่านจากรถไฟจะทำให้คุณทึ่งในความสวยทุกอณูของประเทศเล็ก ๆ แห่งนี้ ตัวอย่างรถไฟสายดังได้แก่ รถไฟสาย “ Bernina Express & Glacier Express (เบอนีน่าเอ๊กเพรสและกลาเซียเอ๊กเพรส)” สุดโรแมนติกที่จะวิ่งผ่านเทือกเขา Alps ผ่านหุบเหวลึก สายน้ำใส สะพานสวย ปราสาทเก่า และเมืองสุดคลาสสิค

เที่ยวบ้านเขาแล้วอย่าลืมเรียนรู้มาใช้กับบ้านเรา

                หากเทียบความโชคดีที่คนสวิตเซอร์แลนด์มีธรรมชาติที่สวยงามแล้วละก็คนไทยเราก็โชคดีไม่แพ้กัน แต่สิ่งที่ทำให้สวิตเซอร์แลนด์ดูแลรักษาความงามของธรรมชาติไว้ได้อย่างน่าชื่นชมก็คือการมีจิตสำนึกรับผิดชอบและการมีระเบียบวินัยของผู้คน เราควรเรียนรู้สิ่งเหล่านี้และนำมาปรับใช้เพื่อให้ความงามของธรรมชาติในไทยสวยงามยั่งยืนได้ไม่แพ้กัน

ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ Eco-Tourism การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

การท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่กำลังเป็นที่ตื่นตัวอยู่ในประเทศไทยขณะนี้ มีหลักการสำคัญ 2 อย่าง คือต้องเป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และเป็นการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวอันเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเศรษฐกิจแบบผสมผสานเข้ากับเรื่องของการอนุรักษ์ไว้ โดยใช้ทุนธรรมชาติอย่างน้อยที่สุดเพื่อส่งเสริมความมั่นคงยั่งยืน ป้องกันความเสื่อมโทรมของธรรมชาติและความเสียหายของระบบนิเวศ คืนประโยชน์ให้กับธรรมชาติและชุมชนท้องถิ่น

รู้จักกับรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงนิเวศให้มากขึ้น

การเดินเส้นทางธรรมชาติและการกางเต็นท์นอนพักแรม โดยมากการท่องเที่ยวลักษณะนี้จะกำหนดหรือแนะนำเส้นทางไว้ให้นักท่องเที่ยวเดินทางเพื่อชมธรรมชาติ เพื่อป้องกันการหลงทาง อุบัติเหตุอันตราย หรือเดินออกนอกเส้นทางไปทำลายพืชพรรณธรรมชาติ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินตามเครื่องหมายบอกทางและศึกษาธรรมชาติผ่านป้ายแนะนำให้ความรู้ต่าง ๆ ตัวอย่างการท่องเที่ยวด้วยการเดินเส้นทางธรรมชาติก็เช่น ในอุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า สวนพฤกษศาสตร์ ป่าพรุ หรือป่าชายเลน ส่วนการกางเต็นท์นอนพักแรมมักอนุญาตให้ทำในบริเวณอุทยานแห่งชาติที่กำหนดไว้ ทำให้ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น

การนั่งเรือแพท่องเที่ยว เป็นการท่องเที่ยวที่ค่อนข้างสบาย โดยนักท่องเที่ยวสามารถชมธรรมชาติ ภูมิประเทศ หรือวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของผู้คนริมน้ำได้ง่าย ๆ โดยการท่องเที่ยวด้วยการนั่งเรือแพนี้ค่อนข้างตอบโจทย์กับการท่องเที่ยวในประเทศไทยที่มีความใกล้ชิดกับสายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นแม่น้ำลำคลอง ทะเลสาบ อ่างเก็บน้ำ และท้องทะเล

การขี่รถจักรยานชมภูมิประเทศ นอกจากตอบสนองต่อเทรนด์รักโลกแล้วการท่องเที่ยวลักษณะนี้ยังตอบสนองต่อเทรนด์รักสุขภาพ เพราะได้ทั้งเที่ยวและออกกำลังกายไปในเวลาเดียวกัน ทำให้เป็นที่นิยมอยากมากในปัจจุบันโดยเฉพาะกับกลุ่มนักท่องเที่ยวในวัยหนุ่มสาว ซึ่งการท่องเที่ยวลักษณะนี้ค่อนข้างสะดวกมากเพราะสามารถเดินทางไปได้เกือบทุกสถานที่ ที่อนุญาตให้จักรยานผ่านได้เช่น ภูเขา ริมเขื่อน เลียบทะเล หรือรอบชานเมือง

การล่องแก่ง และ การพายเรือแคนูเรือคะยัก เป็นการท่องเที่ยวแบบผจญภัยในลำน้ำ โดยนักท่องเที่ยวสามารถนั่งในเรือยางขนาดเล็กหรือบนแพไม้ไผ่ล่องไปตามลำน้ำเชี่ยวกรากและหลบหลีกแก่งหรือโขดหินที่โผล่มาขวางทาง หรือจะเลือกเรือพายขนาดเล็กที่คงทนแต่เบาไม่ล่มง่ายอย่างเรือแคนูหรือเรือคะยักก็ได้ การท่องเที่ยวลักษณะนี้สามารถทำได้ตามลำน้ำทั่วไปแต่จะท้าทายมากขึ้นกับเหล่านักท่องเที่ยวที่รักการผจญภัยในลำน้ำที่มีแก่งหินพาดผ่านหรือน้ำค่อนข้างเชี่ยวกราด โดยนักท่องเที่ยวควรใส่เสื้อชูชีพทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย

การส่องสัตว์ ดูนก เป็นการท่องเที่ยวเพื่อศึกษาความเป็นอยู่และพฤติกรรมตามธรรมชาติของสัตว์ป่าและนกนานาชนิด โดยอาจใช้การมองจากกล้องส่องทางไกล หรือการส่องไฟฉายช่วงกลางคืนแล้วถ่ายภาพ ตัวอย่างการท่องเที่ยวรูปแบบนี้ก็เช่น ในอุทยานแห่งชาติเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุทยานนกน้ำ หรือสวนสัตว์เปิด

                การสำรวจถ้ำ น้ำตก ในประเทศไทยมีถ้ำและน้ำตกจำนวนมาก หลายแห่งได้รับการพัฒนาให้เดินทางเข้าไปสำรวจได้ง่ายขึ้น ซึ่งความสวยงามปนลึกลับของหินงอกหินย้อย เส้นทางในถ้ำและ แนวการกัดเซาะของน้ำตกและทะเลนี้เองที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้หลงเสน่ห์การท่องเที่ยวแนวนี้

ปลุกจิตสำนึกรักษ์โลกด้วยการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ผสมกับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนแบบเป็นมิตรต่อธรรมชาตินี้ นักท่องเที่ยวจะได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และสัมผัสกับธรรมชาติอย่างแท้จริง ทำให้การท่องเที่ยวนี้มีประโยชน์อย่างมาก เนื่องจากช่วยปลุกจิตสำนึกให้เราหันมาเห็นคุณค่าและรักษาสิ่งดี ๆ ที่มีมากขึ้น ถ้าคุณไม่เชื่อลองเริ่มท่องเที่ยวเชิงนิเวศสักครั้งแล้วคุณจะติดใจ

น้ำตกวิวสวย ที่ใคร ๆ ก็อยากไปเที่ยว

น้ำตกเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความสวยงามและน่าอัศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งน้ำตกแต่ละสถานที่นั้นจะมีรูปแบบของความงามที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ทั้งความสูงของน้ำตก ความงามของโขดหินที่มีความสลับซับซ้อน รวมทั้งต้นไม้และพืชพันธุ์ที่เกิดขึ้นอยู่บริเวณธารน้ำตก ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้ล้วนเป็นองค์ประกอบให้น้ำตกในแต่ละแห่งนั้นมีความงดงามทั้งสิ้น ซึ่งน้ำตกที่มีวิวสวยในเมืองไทยนั้นมีอยู่หลากหลายสถานที่ด้วยกัน แต่ที่มีความงดงามและดึงดูดให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้าไปเที่ยวชมเป็นจำนวนมากนั้นมีดังต่อไปนี้คือ

น้ำตกเอราวัณ อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี ถือเป็นน้ำตกที่มีความสวยงามมากติดอันดับท็อป 5 ในประเทศไทย มีขนาดใหญ่มากและมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 7 ชั้น ลักษณะของน้ำตกคือมีธารน้ำไหลแยกออกเป็นสองสายเหมือนงาช้าง สองข้างทางของน้ำตกเต็มไปด้วยแมกไม้นานาชนิดที่มีอายุหลาย 100 ปี ซึ่งน้ำตกเอราวัณนั้นตั้งอยู่ริมฝั่งของแม่น้ำแควใหญ่ในเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ การเดินทางไปยังน้ำตกเอราวัณนั้นค่อนข้างง่ายสามารถใช้รถเข้าไปจอดได้ที่อุทยานเลย

น้ำตกแม่ยะ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เหตุผลที่น้ำตกแห่งนี้ถูกเรียกว่าน้ำตกแม่ยะนั้นมาจากมีแหล่งกำเนิดของต้นน้ำจากห้วยแม่ยะนั่นเอง น้ำตกแม่ยะนั้นมีขนาดใหญ่มากที่สุดในจังหวัดเชียงใหม่เลยก็ว่าได้ ผู้คนหรือนักท่องเที่ยวนิยมมาเล่นน้ำบริเวณธารน้ำตกด้านล่างกันเป็นจำนวนมาก และระหว่างเส้นทางการเดินมาน้ำตกนี้ยังมีเส้นทางศึกษาทางธรรมชาติ จุดชมวิวและชมสัตว์น้อยใหญ่สองข้างทาง เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับนักศึกษาหรือผู้ที่ต้องการเข้ามาศึกษาและเรียนรู้สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ และผู้ที่ชอบการถ่ายภาพไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง

น้ำตกทีลอซู เขตสงวนพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง จังหวัดตาก เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งน้ำตกนั้นมีความสวยงามเป็นอย่างมาก เนื่องจากน้ำจะไหลลงมาเป็นชั้นแบบขั้นบันได ซึ่งน้ำตกทีลอซูนั้นมีต้นกำเนิดแหล่งน้ำมาจากห้วยกล้อท้อ ที่มีความกว้างของแผ่นน้ำค่อนข้างใหญ่ เนื่องจากน้ำตกทีลอซูเป็นพรมแดนระหว่างประเทศไทยและประเทศพม่าจึงทำให้ผืนป่าบริเวณนี้มีความอุดมสมบูรณ์สูง มีสัตว์น้อยใหญ่นานาชนิดที่เข้ามาดื่มกินน้ำบริเวณน้ำตกนี้บ่อย นักท่องเที่ยวที่ชอบความท้าทายและรักการผจญภัยแนะนำอย่างยิ่งให้มาที่น้ำตกแห่งนี้ เนื่องจากธรรมชาติยังคงอยู่ครบถึงจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นจำนวนมากแต่ทางเจ้าหน้าที่ของน้ำตกแห่งนี้มีการดูแลเป็นอย่างดี รวมทั้งเส้นทางที่เข้ามากว่าจะเจอน้ำตกนั้นค่อนข้างลำบาก แต่เนื่องจากน้ำตกอยู่ค่อนข้างลึกเพราะเป็นเขตสงวนพันธุ์สัตว์ป่า ทำให้คนที่เข้ามาน้ำตกแห่งนี้ได้จะต้องเป็นผู้ที่มีใจรักในธรรมชาติอย่างแท้จริง

การไปเที่ยวที่น้ำตกนั้นนอกจากจะไปเล่นน้ำเพื่อชำระล้างร่างกายด้วยน้ำที่ใสไหลเย็นและเพื่อความสนุกสนานเพลิดเพลินแล้ว ยังสามารถไปเที่ยวชมเก็บบรรยากาศหรือเก็บภาพตามแหล่งธรรมชาติที่สวยงามนี้ได้อีกด้วย ซึ่งมีช่างถ่ายภาพเข้าไปเก็บภาพบรรยากาศความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยวเหล่านี้เป็นจำนวนมาก เพราะจะได้ภาพที่สวยสมจริงและมีชีวิตชีวาของป่าและแหล่งน้ำที่อยู่รวมกันอย่างอุดมสมบูรณ์ อีกทั้งสัตว์แมลงเล็ก ๆ เช่น ผีเสื้อ แมลงปอ หรือนกนานาพันธุ์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวและผู้ที่รักในธรรมชาติให้เข้ามาท่องเที่ยวยังน้ำตกเหล่านั้น

“ปราณบุรี” เมืองสุดสงบที่น่าสนใจ

“ปราณบุรี” สถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ไม่ห่างไกลจากรุงเทพมหานครมากนัก แต่มีความสงบอากาศดีธรรมชาติส่วนใหญ่ยังไม่ถูกทำลายไป และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลากหลายสถานที่ด้วยกัน แต่คนส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยรู้จักนั้นวันนี้เราจะพาไปท่องเที่ยวที่เมืองปราณบุรี ซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ทางตอนต้นของภาคใต้ เดินทางจากกรุงเทพฯ ไม่ไกลมากนัก ใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ 3 ถึง 4 ชั่วโมงก็จะได้พบกับธรรมชาติที่สวยงามสมบูรณ์แล้ว  ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในปราณบุรีนั้นส่วนใหญ่จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติดังต่อไปนี้คือ

ปากน้ำปราณ เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในอำเภอปราณบุรีที่ผู้คนมักมาเที่ยวชมวิวทะเลกันในยามเย็น เนื่องจากมีลมค่อนข้างแรงและอากาศเย็นสบาย บริเวณปากน้ำปราณนั้นยังมีพื้นที่บริเวณกว้าง มีถนนตัดผ่านลาดยาวตลอดชายหาด ทำให้สามารถขับรถชมวิวเพื่อความเพลิดเพลินได้ อีกทั้งยามเย็นจะมีเหล่าบรรดาเพื่อนฝูงหรือครอบครัวมานั่งปิกนิกกันบริเวณหน้าปากน้ำปราณดูแล้วเป็นภาพที่อบอุ่นและมีความสุขแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก

ค่ายธนะรัชต์ เป็นค่ายทหารขนาดใหญ่ที่ภายในค่ายนั้นยังเปิดให้เป็นแหล่งเที่ยวชมอีกด้วย ซึ่งค่ายแห่งนี้มีความเป็นธรรมชาติค่อนข้างมากเต็มไปด้วยพันธุ์ไม้นานาพรรณ ภายในค่ายมีป่าเขาลำเนาไพร ชายฝั่งทะเล รวมทั้งแหล่งแม่น้ำหลายสาย เนื่องจากค่ายแห่งนี้มีเนื้อที่ประมาณ 700,000 ไร่ ซึ่งถือว่าเป็นค่ายทหารขนาดใหญ่และมีภูมิลำเนาเดิมทางธรรมชาติที่หลากหลาย ซึ่งทางค่ายเปิดให้มีการเข้าชมได้ตั้งแต่เวลา 8.30 น. ถึงเวลา 16.00 น. ตามเวลาทำการของราชการ แต่ผู้ที่จะไปเที่ยวที่นี่จะต้องมีการรวมตัวกันเป็นหมู่คณะและมีการแจ้งขอเข้าเที่ยวชมก่อนล่วงหน้าทุกครั้ง

วนอุทยานท้าวโกษา เขากระโหลก เป็นเขาที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก ตั้งอยู่บนชายหาดนเรศวรที่ทอดยาวไกล เขากะโหลกนี้มีที่มาคือรูปลักษณ์ภายนอกคล้ายกับหัวกระโหลก ทางตอนเหนือด้านบนของภูเขามีโพรงเข้าไปเป็นรูขนาดใหญ่คล้ายกับลูกกะตาโบ๋  ชาวบ้านละแวกนั้นจึงเรียกว่าเขากะโหลก ซึ่งมีความสูงเพียงแค่ 25 เมตรจากน้ำทะเล แต่ก็สูงมากพอที่จะมองเห็นวิวอันสวยงามของทะเลปราณได้ นอกจากนี้บริเวณหาดด้านล่างเขากะโหลกยังมีนักท่องเที่ยวนิยมมาเดินเล่นพักผ่อนและเล่นน้ำกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากหาดชายหาดแห่งนี้เอื้อต่อการเล่นน้ำเป็นอย่างดี  

และนี่คือ 3 สถานที่เที่ยวยอดฮิตของเมืองปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก แต่หากได้ไปสัมผัสกับที่ปราณบุรีแล้วล่ะก็รับรองได้ว่าจะติดใจ เพราะธรรมชาติที่สวยงามของสถานที่เที่ยวนี้ยังคงสมบูรณ์อยู่ เนื่องจากนักท่องเที่ยวยังไม่รู้จักมากเท่าใดนัก ซึ่งเหมาะกับเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของครอบครัวที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายจากในเมืองหลวงมารับชมธรรมชาติที่สวยงามของทะเล หาดทราย และสายลม ที่หาได้ยากในสังคมเมือง   


นิวซีแลนด์ ดินแดนแห่งการท่องเที่ยว ไปครั้งเดียวไม่มีทางพอ

                เป็นอีกหนึ่งประเทศที่พูดได้เลยว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังมากมายให้นักท่องเที่ยวได้ชื่มชมความสวยงามของสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งก็มีมากมายหลายแบบให้เลือกเที่ยวกันได้ เช่น The Green Dragon Inn โรงเตี้ยม หรือฉากจากในหนังเรื่อง Hobbit ถ้ำหนอนเรืองแสง หรือเกาะน่าท่องเที่ยวมากมาย เหล่านี้ล้วนแล้วแต่อยู่ที่นิวซีแลนด์ทั้งสิ้น เราจะมาดูรายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้กัน

ล่องเรือดูความสว่างจากธรรมชาติ หนอนเรืองแสงหลากสีที่ประเทศนิวซีแลนด์

                 หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำตลอดกาลอีกหนึ่งแห่งนั่นก็คือ Waitomo Glowworm Caves ชื่อไทยว่าถ้ำหนอนเรืองแสงนั่นเอง เป็นถ้ำที่มีประวัติมาอย่างยาวนานซึ่งมีความพิเศษอยู่ตรงที่จะมีหนอนที่สามารถเปล่งแสงออกมาได้อาศัยกันอยู่เป็นจำนวนมาก และด้วยแสงจากเหล่าหนอนเหล่านี้ ทำให้เกิดภาพที่สวยงามอย่างมาก ราวกับเห็นทะเลดาวที่มีสีสันสดใส เป็นเหมือนของขวัญที่ธรรมชาติสร้างขึ้น

โดยการเที่ยวที่ถ้ำหนอนเรืองแสงนั้น จะมีการอธิบายเกี่ยวกับรายละเอียดต่าง ๆ ของการค้นพบถ้ำ ลักษณะทางกายภาพของหนอน และประวัติความเป็นมาต่าง ๆ หลังจากนั้นก็จะพานักท่องเที่ยวลงเรือเพื่อไปดูหนอนเรืองแสงตัวเป็น ๆ นอกจากจะได้เห็นภาพสุดแสนพิเศษที่ประทับใจแล้ว ยังได้รับความรู้ต่าง ๆ มากมาย รวมไปถึงสามารถซื้อของฝากจากที่ถ้ำนำกลับไปฝากทุกคนได้อีกด้วย

ตามรอยหนังดังระดับโลก หมู่บ้าน Hobbit ที่แท้ทรู

                หลายคนที่เป็นแฟนคลับหนังชุด The Lord of The Ring คงไม่มีใครไม่รู้จักกับหนัง split of อย่าง Hobbit ซึ่งแน่นอนว่าสามารถทำรายได้ไปถล่มทลายและได้รับความนิยมไม่ต่างจากหนังต้นฉบับเลย แน่นอนว่าถ้ามีโอกาส ทุกคนคงอยากที่จะไปสัมผัสกับบรรยากาศสถานที่ต่าง ๆ ที่เราเห็นกันในหนัง เหมือนดั่งเช่นที่ Universal Studio ได้มีการเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปดูเบื้องหลังการทำงานของหนังดังมากมายในค่ายในสถานที่จริง ๆ สำหรับใครที่ต้องการแบบนี้ สามารถมาได้ที่หมู่บ้าน Hobbit ที่เกาะเหนือ เมืองมาทามาท่า

สถานที่นี้คือสถานที่ใช้ถ่ายทำจริงของหนังเรื่อง Hobbit ซึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมกันได้ โดยจะมีการจัดฉากและเซตทุกอย่างไว้ให้เหมือนกับในหนังทุกประการ ให้ความรู้สึกเหมือนเราได้หลุดเข้าไปในโลกของหนังจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นของประดับต่าง ๆ ตำแหน่งของบ้านเรือน ลักษณะตัวบ้าน หรือป้ายต่าง ๆ เรียกได้ว่าฟินแน่นอนสำหรับสาวกหนังเรื่อง Hobbit

นอกจากนี้ยังมีคาเฟ่ที่ชื่อว่า The Shires Rest Café ที่อยู่บริเวณทางเข้าของหมู่บ้าน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ไปสัมผัสบรรยากาศต่าง ๆ รวมไปถึงรับประทานอาหารและเครื่องดื่มสุดพิเศษที่ทางร้านได้เตรียมเอาไว้ ถือว่าคุ้มค่าไม่เสียเที่ยวแน่นอน

สิทธิพิเศษเหนือใครที่น้ำผุสูง 30 เมตรที่เมืองโรโตรัว

                ถ้าเป็นเรื่องความสวยงามของธรรมชาติ นิวซีแลนด์ไม่แพ้ประเทศใด อีกหนึ่งปรากฎการณ์ธรรมชาตินั่นก็คือน้ำพุนั่นเอง เนื่องจากประเทศนิวซีแลนด์เป็นประเทศที่มีภูเขาไฟ จึงทำให้เกิดบ่อน้ำพุร้อนนั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่ามีมากมายหลายบ่อที่สามารถไปรับชมกันได้ แต่ที่เป็น Highlight ที่สุดก็คงหนีไม่พ้น บ่อน้ำพุร้อนหลากสี ที่ไม่สามารถหาดูที่ไหนได้ในโลกนี้แล้วนั่นก็คือ บ่อน้ำพุที่ ไวโอทาปุ เป็นบ่อน้ำพุที่มีสีสันสดใส ทั้งสีเขียว เหลือง ฟ้า น้ำเงิน

                สำหรับใครที่มีโอกาสหรือชื่นชอบที่จะเที่ยวต่างประเทศ นิวซีแลนด์เป็นอีกหนึ่งประเทศที่พลาดไม่ได้ อีกมากมายหลากหลายสถานที่ที่หลายคนใฝ่ฝันอยากจะไปเห็นด้วยตาตัวเอง รับรองได้เลยว่าทริปการไปนิวซีแลนด์นั้นจะติดตราตรึงใจท่านที่ได้ไปเที่ยวอย่างแน่นอน