หมู่เกาะสุรินทร์ สวรรค์นักดำน้ำตื้นในดินแดนตอนใต้

หากพูดถึงสถานที่ที่เงียบสงบ กว้างใหญ่ มองแล้วสบายทั้งตา สบายใจ หลายคนคงปฏิเสธไม่ได้ที่จะนึกถึง สถานที่ที่เป็นแม่น้ำ เขื่อน ลำธาร น้ำตก และทะเล ซึ่งในประเทศไทยเราก็มีที่ท่องเที่ยวที่เป็นแหล่งน้ำสวยงามมากมาย ทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง ภาตใต้ รวมถึงตะวันออกและตะวันตก ทุกที่ล้วนสวยและมีเอกลักษณ์ แต่หากจะลองให้ตัวเองได้สัมผัสความงามแห่งท้องน้ำที่ต่างออกไปอีกสักหน่อย การเดินทางด่ำดิ่งลงไปยังท้องทะเลก็ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจของนักท่องเที่ยวสไตล์สายน้ำไม่น้อย

หมู่เกาะสุรินทร์ แม้ห่างไกลแต่คงไว้ซึ่งความสมบูรณ์

ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีชายหาดที่สวยงามไม่แพ้ที่ไหน ๆ ในโลก แต่อีกความสวยงามหนึ่งที่ชาวต่างชาติไม่น้อยต่างพากันข้ามน้ำข้ามทะเลมาเพื่อยลความงดงาม คือการมาชื่นชมสิ่งที่อยู่ลึกลงไปภายใต้หาดสีฟ้า ซึ่งสถานที่ที่ได้ชื่อว่าเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำของบ้านเราคือ หมู่เกาะสุรินทร์ จังหวัดพังงา เป็นหมู่เกาะที่ทอดตัวอยู่บนผืนทะเลอันดามัน ติดกับชายแดนประเทศเมียนมาร์ เรียกได้ว่าเป็นสถานที่สุดขอบสยามอีกสถานที่หนึ่ง นอกจากสุดขอบสยามแล้วยังได้ชื่อว่าเป็นที่สุดของคนรักการดำน้ำตื้นอีกด้วย ระหว่างการเดินทางจากบนฝั่งสีของผืนทะเลค่อย ๆ เปลี่ยน จากตรงท่าเรือที่มีลักษณะเป็นป่าชายเลนทำให้ผืนน้ำมีสีเขียวเข้ม ค่อย ๆ เห็นเป็นสีฟ้า จนกระทั่งครามเข้ม ก่อนกลับมาเป็นสีฟ้าอมเขียวอีกครั้ง ไม่นานสีครามตรงหน้าก็เปลี่ยนเป็นสีขาวของหาดทราย ทันทีที่ก้าวเท้าลงจากเรือปลายเท้าสัมผัสได้ถึงความนุ่มของเม็ดทราย ถือเป็นความประทับใจตั้งแต่แรกพบเลยก็ว่าได้

โดยหมู่เกาะสุรินทร์มีขนาดเล็ก จึงไม่มีทางสำหรับรถสัญจร จะมีก็เพียงแต่ทางเล็ก ๆ สำหรับเดินไปมาเท่านั้น ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงก็สามารถทัวร์ได้รอบเกาะ ดังนั้นการอยู่บนเกาะจึงน่าจะไม่ใช่วัตถุประสงค์หลักของการมาที่นี่ เพราะนักท่องเที่ยวที่มาที่นี่ส่วนมากจะมาเพื่อจุดประสงค์เดียวกันคือ ดำดิ่งสู่ท้องทะเล จึงมักเห็นภาพนักท่องเที่ยวเดินมากับตีนกบและชุดดำน้ำที่ดูทะมัดทะแมง ในครั้งแรกอาจแปลกใจในอุปกรณ์ที่ครบครันของทุกคน จนกระทั่งได้ลองทอดสายตาลงไปยังใต้ผืนน้ำของหมู่เกาะสุรินทร์แห่งนี้ ปะการังสีสันสวยงามบ้างสีม่วง สีฟ้า สีส้ม สีเขียวและอีกมากมาย บ้างหยุดนิ่งบ้างขยับสลับไปมาเหมือนผลัดกันทักทายแขกไม่คุ้นหน้า ปลาตัวน้อย ตัวใหญ่ว่ายเข้ามาใกล้อย่างไม่กลัวคน เม่นทะเล ดาวทะเล และปะการังมากมายที่ไม่รู้จักชื่อ หลังจากได้ชมปะการังแห่งนี้ในวินาทีแรก ก็ไม่อยากโผล่พ้นน้ำขึ้นมาเลย

เคล็ดไม่ลับเที่ยวให้ครบ

หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้หมู่เกาะสุรินทร์ยังคงมีแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ ก็คือ การเดินทางมายาก เนื่องจากจังหวัดพังงาไม่มีสนามบิน ดังนั้นการเดินทางมาจึงต้องมาลงที่สนามบินอื่น ได้แก่ สนามบินภูเก็ตและสนามบินหาดใหญ่ แล้วค่อยต่อรถมายังจังหวัดพังงา เพื่อมายังท่าเทียบเรือคุระบุรี ดังนั้นวิธีเดินทางที่สะดวกสุดจึงเป็น ขึ้นรถที่ขนส่งหมอชิตและมาถึงท่ารถคุระบุรีตอนเช้าตรู่ ตัวหมู่เกาะสุรินทร์ ประกอบ ด้วยเกาะ 5 เกาะ คือ เกาะสุรินทร์เหนือ เกาะสุรินทร์ใต้ เกาะรี เกาะไข่ และเกาะปาจุมบา หากทัวร์แบบ 1 Day Trip อาจจะไม่พอ แนะนำให้ค้างที่เกาะอย่างน้อย 2 คืน ที่สำคัญบริเวณเกาะไข่มักมีฉลามใจดีแวะเวียนมาให้ยลโฉม บางคนเจอตัวใหญ่ บางคนเจอตัวเล็ก แต่เจออย่างแน่นอน หลังจากดำน้ำจนทั่วทั้ง 5 เกาะแล้ว ไฮไลท์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ การนั่งเรือมาทักทายชาวมอแกน พร้อมซื้อของฝากฝีมือชาวมอแกนติดไม้ติดติดมือไปด้วย เพราะชาวมอแกนจะนำของฝาก เช่น สร้อยข้อมือ พวงกุญแจ มาวางขาย ถือเป็นอีกอาชีพที่ชาวมอแกนสามารถทำได้ นอกเหนือจากประมงและรับจ้าง

การเดินทางมายังหมู่เกาะสุรินทร์อาจดูไม่สะดวกสบาย แต่นี่น่าจะเป็นเหตุผลที่หมู่เกาะแห่งนี้ยังคงความสวยงามทั้งชายฝั่งและแนวปะการัง ทุกคนที่มาเที่ยวยังหมู่เกาะอันห่างไกลนี้ แม้หลายคนจะอยู่ในสภาพเปียกปอนแต่บนใบหน้าของพวกเขาต่างเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม ถ้าอยากรู้ว่าทำไมทุกคนถึงมีแต่รอยยิ้ม คำตอบอยู่ที่แนวปะการังอันงดงาม และกำลังรอให้ทุกคนมาสัมผัส

เมืองระนอง เกาะพยามและชุมชนมอแกนที่แสนสงบ

หากใครก็ตามที่หลงรักความเงียบสงบ อยากจะไปหายใจรับออกซิเจนเน้น ๆ ให้เต็มปอด ฟังเสียงคลื่นกระทบชายฝั่ง เคล้าเสียงนกน้อยประสานเสียงขับขาน อยู่เมืองไทยแต่เหมือนไปเมืองนอก ไม่ใช่เพราะอากาศที่เย็นเหมือนเมืองนอก แต่เพราะสถานที่แห่งนี้แทบหานักท่องเที่ยวชาวไทยไม่เจอ โดยมักจะเจอแต่ชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวยุโรปที่ไล่ล่าหาความสงบ ซึ่งเป็นการการันตีได้ว่าที่แห่งนี้เงียบสงบขนาดไหน

ระนอง แม้เป็นเมืองรองแต่อยากให้ลองมา

หลายคนพอนึกถึงจังหวัดระนอง อาจจะมองไม่ออกว่าจะไปเที่ยวที่ไหน แต่ในความจริง ในความเรียบง่ายของจังหวัดนี้เองที่สามารถสร้างความรู้สึกพิเศษอย่างไม่น่าเชื่อ โดยระนองเป็นจังหวัดที่ได้ชื่อว่าเป็นประตูสู่อันดามัน มีทั้งขนส่งทางบกและสนามบินเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว สำหรับการเดินทางภายในจังหวัด สามารถเช่ารถหรือที่พลาดไม่ได้เลย คือ การนั่งรถสองแถวไม้สีสดใส ซึ่งได้รับการอนุรักษ์เอาไว้จนเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของจังหวัดไปโดยปริยาย

สัญลักษณ์ต่อมาที่นักท่องเที่ยวนิยมไปสัมผัส คือ บ่อน้ำร้อน ทั้งบ่อน้ำร้อนพรรั้ง บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน ซึ่งเป็นบ่อน้ำแร่ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ โดยแร่ระนองนี้เป็นแร่คุณภาพดี ไร้กลิ่นกำมะถัน เรียกได้ว่าการมาแช่น้ำร้อนที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้ทั้งความผ่อนคลายและดีต่อสุขภาพ

สถานที่ต่อมา คือ น้ำตกหงาวเป็นน้ำตกที่ตั้งเด่นหรา ท้าทายสายตานักท่องเที่ยวที่สัญจรไปมา สายของน้ำตกลงมาจากยอดเขาสูง ในช่วงน้ำมาก ใครผ่านไปมาแถวนี้จะได้ยินเสียงของน้ำตกหงาวตกกระทบเบื้องล่างเหมือนเป็นพนักงานคอยทำหน้าที่ต้อนรับผู้คนก็ว่าได้ อีกหนึ่งแลนด์มาก คือ ภูเขาหญ้า เขาหัวโล้น ที่จะมีสีเขียวยามหน้าฝน สีเหลืองเมื่อเข้าหน้าแล้ง แต่ไม่ว่าหน้าไหนก็สามารถเดินขึ้นไปชมวิวทิศทัศน์ของเมืองโดยรอบได้ หากเช่ารถสองแถวไม้มาถ่ายรูปคู่ภูเขาหญ้าจะได้ภาพที่สวยมาก

เกาะพยาม นกเงือกและตะวันตกดิน ณ หมู่บ้านมอแกน

จากระนองสู่เกาะพยาม สามารถเดินทางโดยการนั่งรถสองแถวเข้าไปยังท่าเรือเกาะพยาม ตำบลปากน้ำ โดยมีเรือ 2 แบบให้เลือก คือ สปีดโบ๊ทและเรือใหญ่ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนที่จะได้เห็นภาพแรก ภาพของผืนทะเลสีเขียมอมฟ้าและชายหาดสีขาวอมส้ม ต้นมะพร้าวเรียงราย หลังจากก้าวเท้าขึ้นมาบนเกาะสิ่งแรกที่สัมผัสได้ คือ ความเงียบ เงียบจนได้ยินเสียงคลื่นซัดชัดเจน การเดินทางบนเกาะนิยมเช่ารถมอเตอร์ไซค์เนื่องจากถนนค่อนข้างเล็กและเป็นทางคดเคี้ยว สองข้างถนนจะเต็มไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่สีเขียว ทำให้ไม่น่าแปลกใจที่ทำไมหลายคนตั้งใจมาที่นี่เพื่อหวังชมนก โดยนกที่เป็นตัวแทนของความสงบและอุดมสมบูรณ์คงหนีไม่พ้น นกเงือก ที่นี่จะเป็นนกเงือกขนาดเล็ก เรียกว่านกแก๊ก เจ้านกชนิดนี้ชอบบินมาเกาะตรงต้นไม้แล้วหยุดเหมือนจ้องมองนักท่องเที่ยว ยิ่งตอนเช้าจะพบบ่อยบริเวณอ่าวเขาควาย ซึ่งอ่าวที่ว่านี้ เป็นอ่าวที่มีหาดทรายสีขาวนวลละเอียดโค้งตีวงกว้างสุดลูกหูลูกตายาวถึง 2 กิโลเมตร รอบด้วยน้ำทะเลสีฟ้าใส ไม่ค่อยมีร้านอาหาร หรือผู้คนเท่าใดนัก หากมาจังหวะดีก็มีโอกาสได้ครองหาดแห่งนี้แต่เพียงผู้เดียว

นอกจากอ่าวเขาควาย ก็มีหาดสวย ๆ อีกมาก เช่น อ่าวกวางปีบ อ่าวไม้ไผ่ อ่าวหินขาวอ่าวมุก เป็นต้น นอกจากชายหาดแล้วบนเกาะยังมีทั้งป่าไม้ทั้งป่าชายเลนอันอุดมสมบูรณ์ อีกหนึ่งสถานที่ต้องมาให้ได้ คือ หมู่บ้านของชาวทะเลแท้ ที่ยังรักษาวิถีของตนอย่างสมบูรณ์ การเดินทางมาที่นี่ต้องขี่รถลัดเลาะผืนป่าชายเลนออกมาไกลพอสมควร ก่อนจะมาเจอกับหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ลำพัง ผู้คนยังคงรักษาภาษาและวิถีความเป็นมอแกนดั้งเดิมไว้ได้อย่างดี ก่อนกลับอยากให้แวะเก็บภาพบ้านไม้หลังเล็กที่ยกตัวสูงจากผืนทรายของชาวมอแกนที่ริมชายหาด ณ ช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์กำลังเคลื่อนลับขอบฟ้า

แม้การเดินทางมายังเกาะพยายามจะต้องใช้เวลาพอสมควร แต่ระหว่างเส้นทางเหล่านั้น ก็มากมายไปด้วยมิตรภาพและความทรงจำไม่น้อย ที่สำคัญความเงียบสงบและไร้การปรุงแต่งนี้เองคือเสน่ห์มหาศาลที่เราจะได้รับจากทั้งเมืองระนองและเกาะพยาม