โฮจิมินห์ ดาลัด มุ่ยเน่ จากเมืองดอกไม้สู่ทะเลทราย

จากเหนือจรดใต้ของประเทศไทยแวดล้อมไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามอยู่มาก ทว่ายังมีสถานที่บางสถานที่ ที่ไม่ได้ตั้งอยู่ในภูมิประเทศบ้านเรา ทำให้หากจะชื่นชมสถานที่เหล่านั้นนักท่องเที่ยวจะต้องสรรหาวิธี ข้ามน้ำข้ามทะเลเพื่อจะไปถึงจุดหมายในดวงใจ ทะเลทรายก็คือเป็นสถานที่หนึ่งที่ไม่มีให้เห็นในบ้านเรา ต้องเดินทางออกนอกประเทศจึงจะได้ชมกัน นอกจากนั้นภาพจำของทะเลทรายทั่วไปที่พบเห็นตามสื่อต่าง ๆ นั้นดูแล้วแสนจะร้อน แห้งแล้งและคงอยู่ไกลจากบ้านเรามากโข

แวะโฮจิมินห์ก่อนไปวิ่งเล่นทะเลทราย

ในความเป็นจริงภาพการไปวิ่งเล่นที่ทะเลทรายไม่ใช่เรื่องเกินเอื้อมเลยแม้แต่น้อย เพราะทะเลทรายที่ใกล้บ้านเราที่สุด อยู่แค่ประเทศเวียดนามนี้เอง การไปเวียดนามก็แสนสะดวกเพราะมีเครื่องบินจากบ้านเราบินตรงไปยังหลายเมืองของเวียดนาม หากอยากไปดื่มด่ำกับสายหมอกที่ซาปา เวียดนามเหนือ ก็เลือกลงที่สนามบินฮานอยและค่อยต่อรถเข้าไป แต่หากอยากลงมาทางใต้เพื่อไปสัมผัสบรรยากาศการขี่ ATV บนเนินทะเลทราย ให้เลือกลงที่ท่าอากาศยานนานาชาติเตินเซินเญิ้ตหรือเรียกสั้น ๆ ว่าสนามบินโฮจิมินต์ซิตี้

พอถึงนครโฮจิมินห์ก็สามารถเข้าเยี่ยมชมสถานที่ประวัติศาสต์ต่าง ๆ เช่น ศาลากลางโฮจิมินห์ ซึ่งเป็นตึกสีเหลืองครีม สร้างสไตล์ฝรั่งเศส หรืออาคารไปรษณีย์กลางจุดนี้เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปเป็นอย่างมาก ตัวอาคารสีเหลืองตัดกับบานหน้าต่างสีเขียวเข้ม สวยงามและเก่าแก่ มีอายุกว่าร้อยปีเลยทีเดียว

ต่อมาที่ไม่อยากให้พลาดคือ โบสถ์คาทอลิกเก่าแก่ สร้างตามแบบสไตล์ฝรั่งเศส ด้านหน้าจะมีรูปปั้นพระแม่มารีที่สร้างจากหินอ่อนสวยงามและยังเป็นโบสถ์ที่ยังมีการประกอบพิธีทางศาสนาอยู่แม้จะมีอายุกว่าร้อยปีแล้ว สถานที่ต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นในนครโฮจิมินห์ล้วนอิงศิลปะฝรั่งเศส ทำให้การมาที่นี่เหมือนได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของฝรั่งเศสซ่อนอยู่ เป็นการผสมกลืนเข้ากันระหว่างมนต์ขลังของเวียดนามและความโรแมนติกของฝรั่งเศสอย่างกลมกลืน

ดาลัดเมืองดอกไม้และมุ่ยเน่เมืองแห่งทะเลทราย

จากการชื่นชมโบสถ์ วิหาร และอาคารเก่าของของโฮจิมินห์ มาต่อกันที่เมืองที่ได้รับการกล่าวขานว่า เป็นเมืองแห่งดอกไม้ เหตุที่เรียกเช่นนั้นเพราะ ที่นี่มีทุ่งดอกไม้ที่สวยโดดเด่นมาก เช่น ทุ่งไฮเดรนเยีย ทุ่งที่เต็มไปด้วยดอกไฮเดรนเยียแสนสวยสีฟ้า เหลือง ขาว บานชูช่อรอให้นักท่องเที่ยวไปสัมผัสตลอดทั้งปี

สถานที่ต่อมาเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยสีชมพู เหมาะกับสาว ๆ สายหวานอย่างมาก นั่นคือ ทุ่งหญ้าสีชมพู ซึ่งจะมีเฉพาะในหน้าหนาวเท่านั้น เหมาะกับการมาเก็บภาพเป็นอย่างยิ่ง เมืองแห่งดอกไม้นี้ในความเป็นจริงสามารถเรียกได้เรียกว่าเมืองแห่งดอกไม้บนภูเขาก็ได้ เพราะนอกจากดอกไม้ที่สวยงามแล้วนั้น เมืองดาลัดนี้ยังตั้งอยู่บนภูเขาสีเขียว ทะเลสาบสวย แถมอากาศก็เย็นสบายตลอดทั้งปีให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ยุโรปเลยทีเดียว ดังนั้นหากจะมาที่นี่อย่าลืมพกอุปกรณ์สำหรับกันหนาวมาด้วย

ต่อจากดาลัดถึงเวลาไปทักทายทะเลทรายของจริงกับตาตัวเอง วิธีเดินทางคือนั่งรถบัสแบบนอนตอนกลางคืนจากดาลัดจะได้ถึงมุ่ยเน่ตอนเช้าพอดี เมื่อถึงเมืองทะเลทราย ก็ต้องเลือกว่าจะไปทะเลทรายแห่งไหนก่อน เพราะทะเลทรายที่มุ่ยเน่มีหลายแห่ง โดยที่ใหญ่ที่สุดเป็นทะเลทรายสีขาว จึงเรียกว่า ทะเลทรายขาว อาณาบริเวณกว้างใหญ่ไพศาลอยู่ไม่ไกลกับทะเลสาบ นับว่าเป็นวิวสวรรค์สร้างก็ว่าได้ วิธีการเดินทางขึ้นมายังทะเลทรายแบบสะดวกที่สุดคือการซื้อทัวร์แบบ 1 วัน โดยคนขับจะพาเรานั่งรถจี๊ปมาเลย จากนั้นก็ให้เราเดินเล่นตามอัธยาศัย บางคนชื่นชอบกิจกรรมผจญภัยหน่อยก็เช่า ATV ขับขึ้นไปบนเนินทะเลทรายหรือขี่นกกระจอกเทศไปยังได้ บางคนสะดวกเดินก็ได้แต่ลมแรงมาก ฝุ่นตลบเลยทีเดียว

นอกจากทะเลทรายขาวแล้วคนขับก็จะพาไปสถานที่ต่อไปคือทะเลทรายแดง อยู่ไม่ไกลกันนัก เม็ดทรายของที่นี่ละเอียดราวกับเม็ดแป้ง ก่อนจะพาเรากลับไปส่งที่เดิม พร้อมภาพสุดท้ายของวันคือ พระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า

ทุกครั้งที่ได้ออกเดินทาง ทกคนต่างได้รับความทรงจำดี ๆ และในขณะเดียวกันก็ฝากรอยเท้าเอาไว้ เพื่อบ่งบอกว่าครั้งหนึ่งของชีวิต เราต่างได้เดินทางไปยังที่แห่งนั้น ก่อนจะตามหาสถานที่แห่งใหม่เพื่อให้หัวใจได้ออกเดินทางอีกครั้ง