ภูเขาในจังหวัดเลย ที่ต้องไปในหน้าหนาวสักครั้งหนึ่งในชีวิต

ในหน้าหนาวนั้นหากจะพูดถึงที่เที่ยวคงหนีไม่พ้นทางภาคเหนือตามภูเขาต่าง ๆ ซึ่งมีบรรยากาศที่ดี อากาศบริสุทธิ์ อีกทั้งทัศนียภาพรอบด้านที่งดงาม หากไปเที่ยวชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าจะยิ่งทำให้มีความสดชื่นเหมือนได้รับพลังงานบางอย่างเข้ามาเติมเต็มให้ชีวิตมีพลังสู้ต่อไปได้ ซึ่งภูต่าง ๆ ที่ผู้คนนิยมไปเที่ยวนั้นมีอยู่มากมายทั้งทางภาคเหนือและภาคอีสานที่จะมีภูเขาขนาดใหญ่และเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศไทยหลากหลายภูด้วยกัน ซึ่งผู้ที่นับว่าเป็นที่นิยมตลอดกาลในจังหวัดเลยนั้นมีดังต่อไปนี้คือ

ภูกระดึง จ.เลย ซึ่งมีตำนานได้กล่าวเอาไว้ว่าเป็นภูแห่งการพิสูจน์รักแท้ของหนุ่มสาวที่เป็นแฟนกัน ซึ่งมีคู่รักหลายคู่ที่มาเที่ยวที่ภูกระดึงนี้และได้เลิกรากันไป เนื่องจากทางขึ้นไปบนยอดภูเขานั้นมีความลำบากมาก เราจะเห็นว่าคนรักของเรานั้นรักเรามากแค่ไหนได้ แต่ก็มีอีกหลายคู่ที่สามารถขึ้นไปถึงยอดภูอย่างปลอดภัยและมีความสุข ซึ่งมาถึงบนยอดภูนี้แล้วจะทำให้พวกเขารักกันมากยิ่งขึ้น ซึ่งคนที่ไปถึงด้านบนยอดภูเขาสามารถตั้งแคมป์เพื่อดูดาวและพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าได้

ภูเรือ จ. เลย ซึ่งตั้งอยู่บนอุทยานแห่งชาติภูเรือ สาเหตุที่เรียกว่าภูเรือนั้นเนื่องจากภูเขามีลักษณะยื่นออกมายาวคล้ายกับหัวเรือ มีอาณาเขตติดอยู่กับประเทศลาว ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านของเรานั่นเอง นับเป็นจุดท่องเที่ยวบนยอดภูเขาที่มีความสวยงามอีกสถานที่หนึ่ง ซึ่งผู้คนนิยมมาเที่ยวกันในหน้าหนาวอย่างคับคั่ง น้ำค้างที่หล่นลงบนปลายหญ้าจะแปรสภาพเปลี่ยนเป็นแม่คะนิ้ง ซึ่งประเทศไทยไม่ได้พบเห็นกันได้บ่อยแต่สามารถพบเจอได้ที่ภูเรือ

ภูผาหมวก จ. เลย เป็นภูที่สามารถชมทะเลหมอกยามเช้าในหน้าหนาวได้เป็นอย่างดี ซึ่งทะเลหมอกที่เห็นนั้นจะค่อนข้างหนาและสวยงามมากในยามพระอาทิตย์ขึ้นหรือตกดิน หากมองไปในมุมกว้างจะเห็นเป็นทิวเขาระหว่างชายแดนไทยลาวสลับซับซ้อนกันไปมาสวยงาม ซึ่งมีหลายคนอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อนี้เนื่องจากเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ยังไม่มีการโปรโมทมากเท่าใดนัก แต่รับรองได้ว่าหากใครได้ไปแล้วจะต้องไปซ้ำสองอีกแน่นอน

จังหวัดเลยยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมาก นอกจากภูเขาแล้วยังมีป่าเขาลำเนาไพรพื้นที่ราบ และสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกมากมาย ซึ่งสำหรับผู้ที่สนใจการท่องเที่ยวประเภทนี้สามารถไปเที่ยวได้ในทุกฤดูกาล แต่หากต้องการเห็นยอดน้ำค้างหรือแม่คะนิ้งและทะเลหมอกนั้นควรจะไปในฤดูหนาวจะดีที่สุด ถึงแม้จะมีปริมาณนักท่องเที่ยวค่อนข้างมากแต่รับรองได้ว่าจะได้ความสุขและอาจได้มิตรภาพใหม่ ๆ กลับมาอีกด้วย นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิตเลยก็ว่าได้      

สวนสนุกในไทยถ้าไม่ไปจะคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง

ไม่ว่าจะอยู่ในวัยไหนก็ตามย่อมต้องการที่จะปลดปล่อยความสนุกสนานออกมาบ้าง เพื่อผ่อนคลายความเครียดและความเหนื่อยล้าจากการทำงาน สวนสนุกถือว่าตอบโจทย์สำหรับผู้รักความท้าทายและชอบลองอะไรแปลกใหม่ที่น่าหวาดเสียว  ซึ่งหากกล่าวถึงสวนสนุกแล้วนั้นผู้คนส่วนมากมักนึกถึงเด็กที่ชอบไปเที่ยวกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วผู้ใหญ่ก็สามารถไปเที่ยวสวนสนุกได้เช่นกัน ซึ่งเครื่องเล่นบางชนิดนั้นเหมาะกับผู้ใหญ่เสียมากกว่าอีกด้วย โดยแต่ละสวนสนุกนั้นจะมีเครื่องเล่นและกิจกรรมที่แตกต่างกันไป รวมทั้งมีรูปลักษณ์ภายนอกและการตกแต่งสวนที่มีแบบฉบับไม่เหมือนกัน จึงทำให้คนที่รักในการเล่นเครื่องเล่นเหล่านี้ตามหาสวนสนุกเพื่อที่จะเล่นปลดปล่อยความเป็นตัวเองออกมาได้อย่างเต็มที่ ซึ่งสวนสนุกที่มีเครื่องเล่นสุดมันส์ในประเทศไทยนั้นและอยู่ไม่ไกลจากจังหวัดกรุงเทพฯ มีอยู่มากมาย แต่ที่ดังและมีเครื่องเล่นที่หลากหลายนั้นมีอยู่ 3 ที่ด้วยกันคือ

ดรีมเวิลด์ ซึ่งเป็นสวนสนุกที่มีชื่อเสียงมากซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี มีเครื่องเล่นที่หลากหลายและแปลกใหม่ เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย นอกจากนี้ยังมีสวนน้ำมหาสนุกไว้สำหรับครอบครัวอีกด้วย สวนสนุกดรีมเวิลด์นั้นมีชื่อเสียงในเรื่องหิมะซึ่งทางสวนสนุกได้จำลองหิมะขึ้นมาเพื่อให้คนที่ไม่เคยไปต่างประเทศและสัมผัสกับอากาศหนาวได้เข้าไปสัมผัสและใช้บริการกัน สวนสนุกแห่งนี้เปิดให้บริการเวลา 10:00 น. ถึง 17:00 น. ทุกวัน แต่วันเสาร์อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์จะเลื่อนเวลาปิดเป็นเวลา 19:00 น. เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้มีเวลามากเป็นพิเศษในวันหยุด  

ซานโตรินี่พาร์ค วอเตอร์ แฟนตาซี เป็นสวนสนุกที่เพิ่งเปิดใหม่ได้ไม่นาน ตั้งอยู่ในอำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี โดยแบ่งโซนของสวนสนุกออกเป็น 2 ส่วนด้วยกันคือ เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ และอีกโซนจะ มีเครื่องเล่นที่หลากหลายด้วยการตกแต่งสไตล์กรีซยุโรป ทำให้มีมุมถ่ายรูปค่อนข้างเยอะและแปลกตาไม่เหมือนเมืองไทย ในสวนสนุกแห่งนี้จะมีชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ เมื่อเวลาขับรถผ่านไปทางใต้จะเป็นจุดสังเกตได้ชัดเวลาเปิดปิดทำการในวันธรรมดาจะเปิดเวลา 9 โมงครึ่ง ปิดเวลา 6 โมงครึ่ง แต่หากเป็นวันศุกร์ เสาร์และอาทิตย์ จะเปิดให้บริการในเวลา 09:00 น. ถึง 18.30 น. ราคาค่าเข้าผ่านประตูนั้นไม่แพงจะอยู่ที่ 50 บาทเท่านั้น   

สยามพาร์คซิตี้หรือที่เรารู้จักกันว่าสวนสยามทะเลกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นสวนสนุกยอดฮิตของชาวกรุงเทพมหานคร เนื่องจากมีสวนน้ำขนาดใหญ่อยู่ภายในสวนสนุก นอกจากนี้ยังมีเครื่องเล่นที่หลากหลายและมีเครื่องเล่นนำมาใหม่อีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งสวนสยามนี้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาทำให้ไม่น่าเบื่อจำเจ และผู้คนยังหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวชมกันอย่างมากไม่ว่าจะเป็นเด็กผู้ใหญ่หรือหมู่วัยรุ่นก็ตาม ไฮไลท์ของสวนสยามนี้จะอยู่ที่รถไฟเหาะตีลังกาที่สุดแสนจะน่ากลัว เวลาเปิดปิดจะอยู่ที่ 10:00 น. ถึง 17:00 น. บัตรค่าเข้านั้นสำหรับผู้ใหญ่จะอยู่ที่ 600 บาทต่อวัน เด็กอยู่ที่ 120 บาท แต่หากเป็นเด็กเล็กที่ความสูงต่ำกว่า 101 เซนติเมตรสามารถเข้าชมฟรีได้ ซึ่งถือว่าค่อนข้างแพงมากกว่าที่อื่น แต่ก็คุ้มกับการได้เข้าไปเล่นเครื่องเล่นภายในสวนสนุกแห่งนี้

เมื่อรู้อย่างนี้แล้วไม่ควรพลาดที่จะไปทดลองเครื่องเล่นใหม่ ๆ หรือทำกิจกรรมที่สนุกสนานเพลิดเพลินกับเพื่อน ๆ หรือครอบครัว หรือจะไปแบบคู่รักก็ยังได้ ซึ่งถือว่าการขึ้นเครื่องเล่นเหล่านี้เป็นความท้าทายอย่างหนึ่งและปลดปล่อยความกลัวของตัวเองออกมา

3 สถานที่ท่องเที่ยวตามแนวพระราชดำริ

สถานที่ท่องเที่ยวตามแนวพระราชดำรินั้นเป็นสถานที่ที่เปิดให้ประชาชนบุคคลทั่วไปเข้าไปเที่ยวชมและศึกษาหาความรู้ทางด้านต่าง ๆ ที่มีอยู่ในแต่ละโครงการ เพื่อให้นำประโยชน์จากการเรียนรู้เหล่านั้นมาพัฒนาชุมชนของตนเองต่อไป หรือเพื่อนำความรู้ไปบอกต่อแก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือได้ ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวตามแนวพระราชดำรินั้นนับว่ามีประโยชน์ต่อผู้คนเป็นอย่างมาก ซึ่งส่วนใหญ่นั้นจะจัดทำขึ้นเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้และช่วยเหลือเกษตรกรให้มีความเป็นอยู่ที่พอเพียง สามารถนำความรู้จากโครงการต่าง ๆ มาใช้ประโยชน์กับไร่นาสวนของตนเองได้อย่างลงตัว โดยมีแบบอย่างที่ถูกวางแผนไว้ให้แล้ว เรามี 3 สถานที่ท่องเที่ยวในพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาให้คนที่ยังไม่รู้จักได้ไปเที่ยวชมกันดังนี้คือ

โครงการชั่งหัวมัน จ.เพชรบุรี เป็นโครงการพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยทรงบริจาคที่ดินส่วนพระองค์จำนวน 250 กว่าไร่เพื่อมอบเป็นแปลงปลูกทดลองมันเทศในจังหวัดเพชรบุรีเป็นหลัก นอกจากนี้ยังทรงมีพระราชดำริให้ปลูกผักและผลไม้ซึ่งเป็นพืชการเกษตรท้องถิ่นของจังหวัดเพชรบุรีอีกด้วย และทรงมีพระราชดำริให้ติดตั้งกังหันลมซึ่งสามารถผลิตไฟฟ้าได้ และได้นำระบบนี้ไปผลิตไฟฟ้าใช้ภายในโครงการชั่งหัวมัน และแบ่งส่วนหนึ่งเพื่อจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคโดยทำเป็นศูนย์การเรียนรู้ให้ประชาชนเข้ามาศึกษาและนำไปประกอบวิชาชีพ จึงก่อให้เกิดเป็นรายได้ในแหล่งชุมชนท้องถิ่นขึ้น

โครงการปิดทองหลังพระ จ.น่าน ซึ่ง เป็นโครงการตามแนวพระราชดำริ โดยมีจุดประสงค์เริ่มแรกคือต้องการให้ผืนป่าถูกทำลายน้อยที่สุดโดยการทำการเกษตรปลูกข้าวด้วยวิธีใหม่ โดยการทำนาแบบขั้นบันไดบนภูเขาเพื่อให้ชาวบ้านอยู่อย่างพอเพียง โดยเป็นโครงการนำร่องให้กับชาวบ้านในเขตพื้นที่จังหวัดน่านได้ทำตาม นอกจากนี้ทางโครงการยังมีการสร้างฝายเก็บน้ำเพื่อเอาไว้ใช้ในยามหน้าแล้งได้อีกด้วย โครงการปิดทองหลังพระนี้ ตั้งอยู่ในอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน ซึ่งในปัจจุบันได้ถูกพัฒนาจนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแบบเต็มตัว และมีประชาชนให้ความสนใจเข้าไปร่วมเที่ยวชมเป็นจำนวนมาก

โครงการเขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก ตั้งอยู่ที่อำเภอเมืองจังหวัดนครนายก เป็นเขื่อนที่อยู่ไม่ห่างจากกรุงเทพ ฯ มากนัก มีความสวยงามมาก ซึ่งสร้างขึ้นตามแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อเก็บน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้ง และโครงการเขื่อนขุนด่านปราการชลนั้นยังช่วยเหลือประชาชนและชาวบ้านละแวกนั้นให้ไม่เกิดอุทกภัยน้ำท่วมอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีนักท่องเที่ยวที่ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดเข้ามาเที่ยวชมเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีวิวทิวทัศน์สวยสามารถมองเห็นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้ ซึ่งนับว่าเป็นสถานที่เที่ยวที่นอกจากจะได้ความงดงามทางทัศนียภาพแล้วยังช่วยเหลือชาวบ้านได้อีกด้วย  

ซึ่งโครงการตามแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 นั้นมีมากมายหลายพันโครงการ แต่ที่นำมาให้ชมกันนี้เนื่องจากเป็นโครงการใหญ่และมีผู้ที่สนใจเข้าเที่ยวชมเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีการเดินทางไปยังสถานที่เหล่านั้นได้อย่างสะดวกสบาย รวมทั้งสถานที่เหล่านั้นยังคงมีความเป็นธรรมชาติที่งดงามอยู่ สำหรับคนที่สนใจต้องการท่องเที่ยวและเรียนรู้การทำการเกษตรหรือเพื่อไปพักผ่อนชมบรรยากาศที่งดงามนั้นควรไปให้ได้สักหนึ่งครั้งในชีวิต         

3 สถานที่ดูพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า

ธรรมชาติมักให้อะไรเราเสมอ ทั้งความสวยงามให้เราได้ดื่มด่ำ สอดแทรกไปกับการเรียนรู้ที่ไม่มีวันจบสิ้น พระอาทิตย์คือดาวฤกษ์ทางธรรมชาติดวงหนึ่งที่มีแสงสว่างเจิดจ้าในตัวเอง และลำแสงนี้นอกจากจะให้ผู้คนนำมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้หลากหลายอย่างแล้วนั้น ยังให้ความสวยงามตรึงตาตรึงใจแก่ผู้พบเห็นอีกด้วย  โดยเฉพาะในเวลาใกล้รุ่งและในเวลาเย็นที่แสงของพระอาทิตย์นั้นจะค่อย ๆ จางหายไปอย่างช้า ๆ จนลับขอบฟ้า จนกลายเป็นกระแสนิยมให้สร้างเป็นจุดท่องเที่ยวที่มีผู้คนไปเที่ยวชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกดินเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะบนยอดดอยสูงที่สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ได้เป็นมุมกว้างและสวยงาม ซึ่งสถานที่ดูพระอาทิตย์ตกดินนั้นมีอยู่มากมายในประเทศไทยที่มีความสวยงามทางธรรมชาติเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งสถานที่ที่มีความงดงามยามเย็นเพื่อดูแสงอาทิตย์ลับขอบฟ้าและผู้คนให้ความสนใจไปเที่ยวชมเป็นจำนวนมากมีดังต่อไปนี้คือ   

ผาหล่มสักภูกระดึง จังหวัดเลย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวชอบไปกันมากในช่วงฤดูหนาว เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าและตกในยามเย็น ซึ่งการจะไปเที่ยวหรือตั้งแคมป์อยู่บนภูกระดึงนั้นผู้ที่ไปจะต้องมีความแข็งแรงทางด้านร่างกาย และชอบการผจญภัย เนื่องจากจำเป็นที่จะต้องเดินขึ้นไปด้านบนยอดเขาเพื่อให้ถึงจุดชมวิวที่สามารถชมพระอาทิตย์ได้อย่างงดงามที่สุด ซึ่งบนยอดดอยภูกระดึงนั้นสามารถมองเห็นผืนป่าได้เป็นบริเวณกว้าง เมื่อยามพระอาทิตย์ตกดินมาถึงท้องฟ้าจะกลายเป็นสีทอง ซึ่งเป็นภาพที่สวยงามจับตาเป็นอย่างมาก    

จุดชมวิวเนินนางพญา จังหวัดจันทบุรี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความโดดเด่นตรงถนนที่ตัดเลียบไปกับชายทะเล ซึ่งจุดชมวิวเนินนางพญานี้จะสามารถมองเห็นดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าอัสดงตกลงในทะเลอย่างสวยงาม ซึ่งภาพก่อนที่พระอาทิตย์จะลับขอบฟ้าไปนั้น จะเห็นเป็นเหมือนดวงอาทิตย์อยู่สองดวง ซึ่งเป็นเงาในน้ำทะเลที่สะท้อนลงมาจากดวงอาทิตย์ ทำให้กลายเป็นภาพที่น่าประทับใจอย่างยิ่งแก่ผู้พบเห็น

ดอยม่อนจอง จ.เชียงใหม่ ดอยม่อนจองอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย  เป็นอีกดอยหนึ่งที่ถนนหนทางค่อนข้างทุลักทุเลเหมาะสำหรับนักผจญภัยที่ต้องการไปชมพระอาทิตย์ตกดินในยามเย็น  เมื่อพระอาทิตย์เริ่มตกดินนั้นจะเห็นเส้นขอบฟ้าบนยอดเขาเป็นสีทอง ซึ่งหากไปเที่ยวในหน้าหนาวนั้นจะให้บรรยากาศที่โรแมนติกและได้รับความสดชื่น อีกทั้งกลิ่นไอของดอกไม้นานาพันธุ์ที่เบ่งบานบนยอดดอยนั้นทำให้ได้กลิ่นหอมของดอกไม้หลายชนิด คงจะไม่มีอะไรดีไปกว่านั่งชมพระอาทิตย์ตกดินท่ามกลางบรรยากาศที่เย็นสบายในยามนั้นอีกแล้ว

ความงามของธรรมชาตินั้นสามารถหาชมได้ทุกที่ เพียงแต่ว่าเราจะเลือกมองมุมไหน พระอาทิตย์ดวงเดียวกันแต่อยู่ต่างสถานที่ อยู่ต่างเวลากัน ก็สามารถเปลี่ยนแปลงความงดงามนั้นไปได้ ดังนั้นผู้ที่ชอบความงามของดวงอาทิตย์ยามเย็นนั้นไม่ควรพลาดสถานที่ดี ๆ ดังที่กล่าวมาแล้วนี้ เพื่อจะได้เต็มอิ่มกับความงดงามของพระอาทิตย์ตกดินยามเย็น  

น้ำตกวิวสวย ที่ใคร ๆ ก็อยากไปเที่ยว

น้ำตกเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความสวยงามและน่าอัศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งน้ำตกแต่ละสถานที่นั้นจะมีรูปแบบของความงามที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ทั้งความสูงของน้ำตก ความงามของโขดหินที่มีความสลับซับซ้อน รวมทั้งต้นไม้และพืชพันธุ์ที่เกิดขึ้นอยู่บริเวณธารน้ำตก ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้ล้วนเป็นองค์ประกอบให้น้ำตกในแต่ละแห่งนั้นมีความงดงามทั้งสิ้น ซึ่งน้ำตกที่มีวิวสวยในเมืองไทยนั้นมีอยู่หลากหลายสถานที่ด้วยกัน แต่ที่มีความงดงามและดึงดูดให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้าไปเที่ยวชมเป็นจำนวนมากนั้นมีดังต่อไปนี้คือ

น้ำตกเอราวัณ อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี ถือเป็นน้ำตกที่มีความสวยงามมากติดอันดับท็อป 5 ในประเทศไทย มีขนาดใหญ่มากและมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 7 ชั้น ลักษณะของน้ำตกคือมีธารน้ำไหลแยกออกเป็นสองสายเหมือนงาช้าง สองข้างทางของน้ำตกเต็มไปด้วยแมกไม้นานาชนิดที่มีอายุหลาย 100 ปี ซึ่งน้ำตกเอราวัณนั้นตั้งอยู่ริมฝั่งของแม่น้ำแควใหญ่ในเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ การเดินทางไปยังน้ำตกเอราวัณนั้นค่อนข้างง่ายสามารถใช้รถเข้าไปจอดได้ที่อุทยานเลย

น้ำตกแม่ยะ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เหตุผลที่น้ำตกแห่งนี้ถูกเรียกว่าน้ำตกแม่ยะนั้นมาจากมีแหล่งกำเนิดของต้นน้ำจากห้วยแม่ยะนั่นเอง น้ำตกแม่ยะนั้นมีขนาดใหญ่มากที่สุดในจังหวัดเชียงใหม่เลยก็ว่าได้ ผู้คนหรือนักท่องเที่ยวนิยมมาเล่นน้ำบริเวณธารน้ำตกด้านล่างกันเป็นจำนวนมาก และระหว่างเส้นทางการเดินมาน้ำตกนี้ยังมีเส้นทางศึกษาทางธรรมชาติ จุดชมวิวและชมสัตว์น้อยใหญ่สองข้างทาง เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับนักศึกษาหรือผู้ที่ต้องการเข้ามาศึกษาและเรียนรู้สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ และผู้ที่ชอบการถ่ายภาพไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง

น้ำตกทีลอซู เขตสงวนพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง จังหวัดตาก เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งน้ำตกนั้นมีความสวยงามเป็นอย่างมาก เนื่องจากน้ำจะไหลลงมาเป็นชั้นแบบขั้นบันได ซึ่งน้ำตกทีลอซูนั้นมีต้นกำเนิดแหล่งน้ำมาจากห้วยกล้อท้อ ที่มีความกว้างของแผ่นน้ำค่อนข้างใหญ่ เนื่องจากน้ำตกทีลอซูเป็นพรมแดนระหว่างประเทศไทยและประเทศพม่าจึงทำให้ผืนป่าบริเวณนี้มีความอุดมสมบูรณ์สูง มีสัตว์น้อยใหญ่นานาชนิดที่เข้ามาดื่มกินน้ำบริเวณน้ำตกนี้บ่อย นักท่องเที่ยวที่ชอบความท้าทายและรักการผจญภัยแนะนำอย่างยิ่งให้มาที่น้ำตกแห่งนี้ เนื่องจากธรรมชาติยังคงอยู่ครบถึงจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นจำนวนมากแต่ทางเจ้าหน้าที่ของน้ำตกแห่งนี้มีการดูแลเป็นอย่างดี รวมทั้งเส้นทางที่เข้ามากว่าจะเจอน้ำตกนั้นค่อนข้างลำบาก แต่เนื่องจากน้ำตกอยู่ค่อนข้างลึกเพราะเป็นเขตสงวนพันธุ์สัตว์ป่า ทำให้คนที่เข้ามาน้ำตกแห่งนี้ได้จะต้องเป็นผู้ที่มีใจรักในธรรมชาติอย่างแท้จริง

การไปเที่ยวที่น้ำตกนั้นนอกจากจะไปเล่นน้ำเพื่อชำระล้างร่างกายด้วยน้ำที่ใสไหลเย็นและเพื่อความสนุกสนานเพลิดเพลินแล้ว ยังสามารถไปเที่ยวชมเก็บบรรยากาศหรือเก็บภาพตามแหล่งธรรมชาติที่สวยงามนี้ได้อีกด้วย ซึ่งมีช่างถ่ายภาพเข้าไปเก็บภาพบรรยากาศความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยวเหล่านี้เป็นจำนวนมาก เพราะจะได้ภาพที่สวยสมจริงและมีชีวิตชีวาของป่าและแหล่งน้ำที่อยู่รวมกันอย่างอุดมสมบูรณ์ อีกทั้งสัตว์แมลงเล็ก ๆ เช่น ผีเสื้อ แมลงปอ หรือนกนานาพันธุ์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวและผู้ที่รักในธรรมชาติให้เข้ามาท่องเที่ยวยังน้ำตกเหล่านั้น

เที่ยวหมู่บ้านชาวเขาวิถีชีวิตแบบพื้นบ้าน

ชาวเขาเป็นชนเผ่าที่อยู่มานาน บางเผ่านั้นมีอายุนานถึง 100 ปี หมู่บ้านของชาวเขานั้นมักเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ มีสังคมอยู่กันเพียงไม่กี่ครัวเรือน มีชีวิตความเป็นอยู่ที่สมถะ พอเพียง และพออยู่พอกิน ซึ่งวัฒนธรรมของแต่ละชนเผ่านั้นจะไม่เหมือนกันเสียทีเดียว ขึ้นอยู่กับจารีตประเพณีที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ ถึงแม้ในปัจจุบันนี้ยุคสมัยจะเปลี่ยนไปแล้ว แต่ชาวเขาเผ่าต่าง ๆ เหล่านี้ยังคงเหมือนเดิมไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรไปมาก ส่วนใหญ่หมู่บ้านของชาวเขานั้นจะอยู่ลึกเข้าไปจากตัวเมืองค่อนข้างมาก ทำให้มีการเดินทางและการติดต่อสื่อสารค่อนข้างลำบาก สำหรับคนที่รักในการท่องเที่ยวตามแหล่งอารยธรรมชุมชนพื้นเมืองนั้น จำเป็นที่จะต้องเป็นผู้รักการผจญภัยสักนิดหนึ่ง เนื่องจากการเดินทางเข้าไปยังหมู่บ้านชนเผ่าแต่ละหมู่บ้านนั้นจะใช้เวลาค่อนข้างนาน และระหว่างทางถนนจะขรุขระไม่เรียบเนียนและไม่สะดวกสบายเอาเสียเลย ซึ่งหมู่บ้านชาวเขาที่มีวิถีชีวิตแบบพื้นบ้านดั้งเดิมนั้นมีอยู่หลากหลายหมู่บ้านด้วยกัน แต่ที่จะหยิบยกมาพูดถึงนี้เป็นหมู่บ้านชาวเขาที่ผู้คนนิยมไปเที่ยวชมกันมากที่สุดคือ

หมู่บ้านม้งบนดอยปุย ซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวเขาที่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศไทย ภายในหมู่บ้านนั้นยังคงมีความเป็นธรรมชาติสูงและมีวิถีชีวิตความเป็นอยู่แบบชาวเขา แต่เนื่องด้วยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมเข้าไปเที่ยวที่หมู่บ้านม้งบนดอยปุยแห่งนี้มาก จึงนำเอาความทันสมัยของโลกยุคปัจจุบันเข้าไปด้วย จึงเป็นการผสมผสานระหว่างอารยธรรมของชาวเผ่ากับสังคมเมืองสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว ซึ่งผู้เฒ่าผู้แก่นั้นยังคงสวมเสื้อผ้าแบบชาวเขาดั้งเดิมอยู่ แต่จะมีเด็กวัยรุ่นที่มีการใส่เสื้อผ้าแบบคนยุคใหม่อยู่บ้าง สำหรับคนที่ไปท่องเที่ยวหมู่บ้านชาวเผ่าม้งบนดอยปุยนี้สามารถเช่าชุดชาวเขาใส่เพื่อถ่ายรูปได้ และการเดินทางไปยังหมู่บ้านม้งดอยปุยนั้นไม่ได้ยากลำบากมากเท่าใดนัก เนื่องจากมีรถสองแถวที่อยู่ล่างตีนเขาคอยรับส่งอยู่          

ชาวไทยภูเขาเผ่าอาข่าที่หมู่บ้านหล่อโย จ.เชียงราย ซึ่งหมู่บ้านชาวเขาแห่งนี้เป็นที่โด่งดังมาก เนื่องจากชาวเขาเผ่าอาข่านั้นมีวัฒนธรรมแบบเฉพาะของตนเองที่ดูงดงาม ผู้คนที่นี่อัธยาศัยดีและเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยว การแต่งกายของชาวเขาเผ่าอาข่านั้น จะคล้ายกับการแต่งกายในวัฒนธรรมทางภาคเหนือ ผู้ชายจะใส่กางเกงกะเสื้อม่อฮ่อมสีดำ ส่วนผู้หญิงจะใส่กระโปรงกับเสื้อม่อฮ่อมสีดำเช่นเดียวกัน แต่จะมีหมวกที่ประดับประดาไปด้วยเครื่องเงินและสวมถุงเท้ายาวถึงเข่าเพื่อป้องกันความหนาว อาหาร พื้นบ้านของชาวเขาเผ่าอาข่านี้จะเป็นพวกผัดผัก ไข่เจียวสมุนไพร น้ำพริกผักสด หรืออาหารที่มักมีสมุนไพรเข้ามาเกี่ยวข้อง ส่วนการละเล่นพื้นบ้านของชาวเขาเผ่าอาข่านี้จะเป็นพวกลูกข่าง

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบการผจญภัยและชอบเที่ยวชมหมู่บ้านชาวเขานั้น ทั้งหมู่บ้านม้งบนดอยปุยและหมู่บ้านหล่อโยของชาวไทยภูเขาเผ่าอาข่านั้นถือว่าตอบโจทย์ผู้รักการท่องเที่ยวที่ต้องการเห็นวิถีชีวิตของชาวเขาดั้งเดิมเป็นอย่างดี อีกทั้งการเดินทางไปยังสถานที่เที่ยวสองหมู่บ้านนี้ยังเดินทางได้สะดวก การคมนาคมขนส่งเข้าถึง แต่อาจจะต้องมีการเดินเท้าบ้างเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ลำบากแต่อย่างใด

“ท่าศาลา” กับหาดทรายสวยที่หลากหลาย

การเที่ยวริมทะเลนั้นถือเป็นการท่องเที่ยวพักผ่อนของคนทั่วไป ยิ่งหาดทรายยิ่งสวยมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีนักท่องเที่ยวต้องการเข้าไปเที่ยวชมเป็นจำนวนมากเท่านั้น ซึ่งในประเทศไทยนั้นมีหลากหลายชายหาดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความสวยงามหาดทรายสีขาวบริสุทธิ์ แต่วันนี้เราจะพาไปเที่ยวที่อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งยังถือว่าไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวมากนัก แต่ชาวบ้านละแวกนั้นรวมถึงผู้ที่ชอบการท่องเที่ยวแบบส่วนตัวคนไม่พลุกพล่าน นิยมเข้าไปเที่ยวชายหาดบริเวณนั้นกันมาก เนื่องมาจากยังคงมีความสวยงามทางธรรมชาติที่สมบูรณ์ และมีหาดทรายที่สวยงามอยู่หลากหลายหาดด้วยกัน ซึ่งอำเภอท่าศาลานี้จะมีหาดขนาดเล็กอยู่ติดกัน ซึ่งหาดทรายที่ชาวอำเภอท่าศาลานิยมเข้าไปเที่ยวชมนั้นมีดังต่อไปนี้คือ

หาดทรายแก้ว เป็นหาดทรายที่มีผู้คนนิยมไปท่องเที่ยวมากที่สุดในอำเภอท่าศาลา เนื่องจากชายหาดมีความกว้าง และมีร้านอาหารขนาดใหญ่ตั้งอยู่ด้านหน้า รวมทั้งมีพิพิธภัณฑ์หาดทรายแก้วที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามร้านอาหาร รวมทั้งยังมีร้านไอติมโบราณที่เป็นไอติมขึ้นชื่อของหาดทรายแก้วอีกด้วย นอกจากนี้บริเวณหาดทรายแก้วและพิพิธภัณฑ์นั้นจะมีเด็กมาทัศนศึกษาเข้ามาเที่ยวชมอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ใช้หาดแห่งนี้มีความคึกคักมากพอสมควร แต่ในยามเช้านั้นจะค่อนข้างเงียบสงบ คลื่นทะเลบริเวณหาดทรายแก้วนั้นจะมีความแรงและมีเสียงดังมากเป็นพิเศษ เนื่องจากมีโขดหินอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อน้ำทะเลกระทบหินจะเกิดเป็นเสียงดังนั่นเอง    

หาดธารา เป็นหาดทรายที่อยู่ติดกับหาดทรายแก้วจะอยู่บริเวณตอนบนทางด้านเหนือของหาดทรายแก้ว ซึ่งหาดนี้จะมีร้านค้าและร้านอาหารอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งร้านอาหารของหาดธารานั้นใช้วัสดุก่อสร้างที่ทำมาจากธรรมชาติ เช่น ใบจาก ไม้ไผ่ หรือทางมะพร้าว เพื่อให้ใช้หาดดูเป็นแบบท้องถิ่นและได้อารมณ์แบบอยู่ชายทะเลจริง ๆ ริมหาดนั้นมีความเรียบเนียนเม็ดทรายสีสวย ทำให้ผู้ที่ชอบเล่นน้ำสามารถมาเที่ยวชมและลงเล่นน้ำที่หาดธาราได้

หาดซันไรซ์ เป็นอีกหาดหนึ่งที่มีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติเม็ดทรายนิ่มละเอียด สามารถมองเห็นวิวทะเลได้กว้าง บริเวณถนนก่อนจะลงไปชายหาดจะมีต้นมะพร้าวปลูกอยู่เรียงรายเสริมบรรยากาศให้กับชายทะเลได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้อีกด้านหนึ่งของบริเวณหาดซันไรซ์นั้นจะเป็นโขดหินทำให้เหมาะกับผู้ที่ต้องการไปถ่ายรูปและต้องการวิวที่หลากหลาย ซึ่งสามารถได้ทั้งวิวชายหาดและวิวโขดหินริมน้ำทะเลไปพร้อมกัน   

และนี่คือหาดทรายที่อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ผู้คนนิยมไปเที่ยวกัน แต่ชายหาดเหล่านี้ยังคงมีความสมบูรณ์ของธรรมชาติอยู่มาก เนื่องจากมีคนไปเที่ยวกันน้อย ซึ่งผู้ที่ต้องการไปท่องเที่ยวที่คนไม่เยอะมากนั้น อำเภอท่าศาลาถือว่าตอบโจทย์เป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะได้บรรยากาศแบบอยู่ชายทะเลจริงแล้วนั้น ยังให้ความรู้สึกเหมือนเป็นหาดส่วนตัวที่มีคนไม่พลุกพล่าน และยังมีชายหาดให้เลือกหลากหลายสถานที่ให้ไปเที่ยวชม เพราะแต่ละหาดทรายนั้นมีความสวยงามที่ไม่เหมือนกัน จึงเหมาะเป็นอย่างมากกับผู้ที่สนใจไปพักผ่อนในวันหยุด

เที่ยวอย่างไรให้สร้างสรรค์ เที่ยวแล้วต้องรักษ์ด้วย

 การท่องเที่ยวนั้นมีหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวตามแหล่งธรรมชาติ การท่องเที่ยวในสังคมเมือง การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม หรือการท่องเที่ยวตามแหล่งงานศิลปะต่าง ๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่ทำให้คนที่หลงใหลในการท่องเที่ยวในรูปแบบที่แตกต่างกันนั้นมีความสุขทั้งสิ้น แต่โลกทุกวันนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปมาก ซึ่งความรู้นั้นไม่ได้มีแต่เพียงในห้องเรียน ดังนั้นบุคคลที่รักในการท่องโลกนั้นนิยมที่จะออกไปค้นหาคำตอบต่าง ๆ ด้วยตนเอง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่มีความท้าทายไปพร้อมกันกับการพักผ่อนหย่อนใจ แต่สถานที่เที่ยวไหนบ้างล่ะที่จะทำให้การท่องเที่ยวในแต่ละครั้งนั้นสร้างสรรค์ ไปดูกันเลย       

เที่ยวตามแหล่งธรรมชาติเน้นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ปัจจุบันนี้มีผู้คนหันมาท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์กันมากขึ้น เนื่องจากโลกของเราได้ถูกทำลายลง และแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติได้ถูกทำลายด้วยฝีมือมนุษย์เป็นจำนวนมาก แต่ยังมีกลุ่มบุคคลที่ให้ความสนใจและพร้อมที่จะท่องเที่ยวและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไปพร้อม ๆ กันด้วย และผู้ที่ชอบเที่ยวธรรมชาตินั้นควรจะมีสามัญสำนึกของตนเองอยู่โดยที่ไม่ไปเบียดเบียนสัตว์หรือทำลายธรรมชาติ หรือแม้แต่เก็บของเหล่านั้นมาเป็นสิ่งของส่วนตน ซึ่งหากทำได้ดังนี้จะทำให้ธรรมชาติยังคงอยู่ต่อไปอย่างสมบูรณ์

เที่ยวตามศูนย์แหล่งการเรียนรู้ ซึ่งถือว่าเป็นการท่องเที่ยวที่กำลังมาแรงมากในยุคนี้ เพราะนอกจากที่จะได้เที่ยวตามแหล่งธรรมชาติที่มีอากาศบริสุทธิ์แล้วนั้น ยังได้เรียนรู้วิถีชีวิตของชาวชนบทในเมืองต่าง ๆ ที่ไป อีกทั้งยังได้เรียนรู้วิถีชีวิตเกษตรพอเพียงและงานหัตถกรรมฝีมือชาวบ้านอีกด้วย ซึ่งการท่องเที่ยวแนวนี้จะมีผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะมาให้ความรู้โดยตรง ทำให้เหมาะแก่ผู้ที่ต้องการไปศึกษาค้นคว้าวิจัย เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาพัฒนาผลงานและพัฒนาประเทศ ให้ดียิ่งขึ้น

เที่ยวตามแหล่งชุมชนท้องถิ่น ซึ่งอาจจะเป็นหมู่บ้านชาวเขากะเหรี่ยง หรือหมู่บ้านชนเผ่าต่าง ๆ ที่มีอยู่ภายในประเทศตามเขตชายแดน หรือพื้นที่ห่างไกล ซึ่งการท่องเที่ยวแนวนี้จะทำให้ผู้ที่ไปพบเห็นได้เปิดโลกใหม่ในสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นอารยธรรมของชนเผ่าเหล่านั้น รวมทั้งจารีตประเพณี อาหารการกิน อีกทั้งเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มที่ใช้จะมีวัฒนธรรมเฉพาะแบบ ซึ่งแต่ละชนเผ่านั้นจะมีลักษณะแตกต่างกัน ซึ่งการเข้าไปท่องเที่ยวและเรียนรู้วัฒนธรรมของชนเผ่าในชุมชนท้องถิ่นเหล่านี้ จะทำให้ผู้ท่องเที่ยวนั้นเกิดความหลงใหลกับความงดงามของอารยธรรมที่ไปได้อย่างแน่นอน อีกทั้งการท่องเที่ยวแบบนี้จะมีไกด์หรือผู้นำชุมชนเป็นผู้ให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยวโดยตรง ซึ่งถือว่าเป็นความรู้ที่ถูกต้องและยังได้สัมผัสกับการปฎิบัติงานของคนในชุมชนนั้นจริงอีกด้วย

ซึ่งจากที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นถือเป็นการท่องเที่ยวที่มีความสร้างสรรค์ เนื่องจากการไปเที่ยวตามสถานที่เฉพาะเหล่านี้ จะให้ความรู้และเปิดโลกทัศน์ใบใหม่ให้แก่ผู้ที่ไปพบเห็น อีกทั้งยังนำความรู้ที่ได้รับเหล่านั้นมาสร้างสรรค์ผลงานให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองหรือประเทศชาติต่อไปได้ หรืออาจนำความรู้ที่ได้รับมามาสอนหรือบรรยายต่อกับผู้ที่ไม่เคยไปได้มองเห็นถึงแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ ที่มีอยู่ในประเทศไทยได้อีกด้วย

“ปราณบุรี” เมืองสุดสงบที่น่าสนใจ

“ปราณบุรี” สถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ไม่ห่างไกลจากรุงเทพมหานครมากนัก แต่มีความสงบอากาศดีธรรมชาติส่วนใหญ่ยังไม่ถูกทำลายไป และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลากหลายสถานที่ด้วยกัน แต่คนส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยรู้จักนั้นวันนี้เราจะพาไปท่องเที่ยวที่เมืองปราณบุรี ซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ทางตอนต้นของภาคใต้ เดินทางจากกรุงเทพฯ ไม่ไกลมากนัก ใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ 3 ถึง 4 ชั่วโมงก็จะได้พบกับธรรมชาติที่สวยงามสมบูรณ์แล้ว  ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในปราณบุรีนั้นส่วนใหญ่จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติดังต่อไปนี้คือ

ปากน้ำปราณ เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในอำเภอปราณบุรีที่ผู้คนมักมาเที่ยวชมวิวทะเลกันในยามเย็น เนื่องจากมีลมค่อนข้างแรงและอากาศเย็นสบาย บริเวณปากน้ำปราณนั้นยังมีพื้นที่บริเวณกว้าง มีถนนตัดผ่านลาดยาวตลอดชายหาด ทำให้สามารถขับรถชมวิวเพื่อความเพลิดเพลินได้ อีกทั้งยามเย็นจะมีเหล่าบรรดาเพื่อนฝูงหรือครอบครัวมานั่งปิกนิกกันบริเวณหน้าปากน้ำปราณดูแล้วเป็นภาพที่อบอุ่นและมีความสุขแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก

ค่ายธนะรัชต์ เป็นค่ายทหารขนาดใหญ่ที่ภายในค่ายนั้นยังเปิดให้เป็นแหล่งเที่ยวชมอีกด้วย ซึ่งค่ายแห่งนี้มีความเป็นธรรมชาติค่อนข้างมากเต็มไปด้วยพันธุ์ไม้นานาพรรณ ภายในค่ายมีป่าเขาลำเนาไพร ชายฝั่งทะเล รวมทั้งแหล่งแม่น้ำหลายสาย เนื่องจากค่ายแห่งนี้มีเนื้อที่ประมาณ 700,000 ไร่ ซึ่งถือว่าเป็นค่ายทหารขนาดใหญ่และมีภูมิลำเนาเดิมทางธรรมชาติที่หลากหลาย ซึ่งทางค่ายเปิดให้มีการเข้าชมได้ตั้งแต่เวลา 8.30 น. ถึงเวลา 16.00 น. ตามเวลาทำการของราชการ แต่ผู้ที่จะไปเที่ยวที่นี่จะต้องมีการรวมตัวกันเป็นหมู่คณะและมีการแจ้งขอเข้าเที่ยวชมก่อนล่วงหน้าทุกครั้ง

วนอุทยานท้าวโกษา เขากระโหลก เป็นเขาที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก ตั้งอยู่บนชายหาดนเรศวรที่ทอดยาวไกล เขากะโหลกนี้มีที่มาคือรูปลักษณ์ภายนอกคล้ายกับหัวกระโหลก ทางตอนเหนือด้านบนของภูเขามีโพรงเข้าไปเป็นรูขนาดใหญ่คล้ายกับลูกกะตาโบ๋  ชาวบ้านละแวกนั้นจึงเรียกว่าเขากะโหลก ซึ่งมีความสูงเพียงแค่ 25 เมตรจากน้ำทะเล แต่ก็สูงมากพอที่จะมองเห็นวิวอันสวยงามของทะเลปราณได้ นอกจากนี้บริเวณหาดด้านล่างเขากะโหลกยังมีนักท่องเที่ยวนิยมมาเดินเล่นพักผ่อนและเล่นน้ำกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากหาดชายหาดแห่งนี้เอื้อต่อการเล่นน้ำเป็นอย่างดี  

และนี่คือ 3 สถานที่เที่ยวยอดฮิตของเมืองปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก แต่หากได้ไปสัมผัสกับที่ปราณบุรีแล้วล่ะก็รับรองได้ว่าจะติดใจ เพราะธรรมชาติที่สวยงามของสถานที่เที่ยวนี้ยังคงสมบูรณ์อยู่ เนื่องจากนักท่องเที่ยวยังไม่รู้จักมากเท่าใดนัก ซึ่งเหมาะกับเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของครอบครัวที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายจากในเมืองหลวงมารับชมธรรมชาติที่สวยงามของทะเล หาดทราย และสายลม ที่หาได้ยากในสังคมเมือง   


สถานที่ท่องเที่ยวในฝันริมแม่น้ำเจ้าพระยา

ในเมืองหลวงที่หลายสิ่งดูวุ่นวายอย่างในกรุงเทพมหานครแห่งนี้ คงจะดีไม่น้อยหากเราได้ผ่อนคลายกับบรรยากาศริมแม่น้ำ ปล่อยความเหนื่อยล้าและความว้าวุ่นใจไปกับสายน้ำ และคงจะดีไม่น้อยหากริมแม่น้ำเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีทั้งแหล่งขายอาหารการกิน ขายสิ่งของที่ระลึก มีมุมต่าง ๆ ไว้ให้ถ่ายรูปเพื่อเก็บภาพแห่งความทรงจำ ซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เราสามารถไปสถานที่แบบนี้ได้ที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่อยู่ในกรุงเทพมหานครของเรานี่เอง ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าในเมืองหลวงที่มีการจราจรติดขัดนั้นยังมีมุมบรรยากาศแห่งการพักผ่อนอยู่ไม่ไกล ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยานั้นมีอยู่หลากหลายสถานที่ด้วยกัน แต่ที่ผู้คนนิยมไปท่องเที่ยวกันมากนั้นมีดังต่อไปนี้คือ 

เอเชียทีค เดอะรีเวอร์ฟอนท์ ซึ่งนอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับคนในเมืองหลวงแล้วนั้น ชาวต่างชาติที่มาถึงเมืองไทยก็ต้องแวะมาที่นี่ด้วยเช่นกัน เพราะเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวในกรุงเทพมหานครที่มีความคลาสสิคอยู่ในตัว เพราะนอกจากจะมีความสวยงามทางด้านธรรมชาติของริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาแล้วนั้น เอเชียทีคยังถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สื่อถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทยได้เป็นอย่างดี เนื่องจากมีของแฮนเมดที่แสดงถึงความเป็นไทยวางขายอยู่เรียงรายเป็นจำนวนมาก อีกทั้งของทานเล่นหรือร้านอาหารที่เรียบหรูแต่มีความท้องถิ่นอยู่ในตัวที่เหมาะกับวิถีชีวิตของชาวเมืองกรุงเทพฯ นอกจากนี้ยังมีสวนสนุกขนาดย่อมเพื่อสื่อให้เห็นถึงเครื่องเล่นของไทยอย่างเช่น ม้าหมุน หรือชิงช้าสวรรค์ ที่ได้กลายเป็นจุดเด่นของเอเชียทีคแห่งนี้ไปแล้ว เนื่องจากผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาหรือชาวต่างชาติที่แวะมาเที่ยวชมสถานที่แห่งนี้จะต้องถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันแทบทั้งนั้น  เนื่องจากชิงช้าสวรรค์ที่มีขนาดใหญ่นี้เปรียบเสมือนกับดวงตาแห่งกรุงเทพมหานครเลยก็ว่าได้

ไอคอนสยาม เป็นห้างสรรพสินค้าที่เพิ่งเปิดใหม่สด ๆ ร้อน ๆ เมื่อปลายปี 2018 ที่ผ่านมา โดยลักษณะของห้างนั้นจะมีความเป็นเอกลักษณ์สูง มีแบรนด์สินค้ายี่ห้อดังหลากหลายแบรนด์ อีกทั้งห้างแห่งนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ผู้ไปเที่ยวนั้นสามารถเดินออกมาบริเวณระเบียงด้านนอกได้เพื่อรับลมยามเย็นของริมฝั่งแม่น้ำ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ผู้คนนิยมไปถ่ายรูปเนื่องจากตัวห้างมีความสูงจึงทำให้มองเห็นวิวเมืองได้ค่อนข้างกว้าง และนอกจากนี้บริเวณหน้าห้างยังมีการประดับประดาไปด้วยแสงไฟระยิบระยับที่สวยงามเหมาะแก่การไปเดินช้อปปิ้งและพักผ่อนเป็นอย่างมาก

ท่ามหาราช เป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดฮิตของเหล่าวัยรุ่นและหนุ่มสาวชาววินเทจที่ต้องการมาเที่ยวพักผ่อนในวันหยุด ซึ่งที่ท่ามหาราชนี้ยังเหมาะกับเป็นสถานที่ไว้ถ่ายรูปเนื่องจากมีมุมที่สวยงามอยู่หลายจุด และยังมีร้านอาหารแบบดังเดิมตั้งอยู่มากมายริมฝั่งแม่น้ำ ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ต้องการไปรับประทานอาหารและนั่งมองเรือหางยาวหรือดูวิถีชีวิตของชาวบ้านริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นอย่างดี

และนี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีกลิ่นไอของวิถีชีวิตชาวบ้านริมฝั่งแม่น้ำแบบดั้งเดิม ซึ่งได้รวมความทันสมัยเข้ามาโดยการมีร้านอาหารหรือห้างสรรพสินค้าเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดผู้ที่สนใจการท่องเที่ยวแนวบรรยากาศโรแมนติก ซึ่งผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองและไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนนั้น ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยานับว่าเป็นสถานที่เที่ยวที่มีความสวยงาม ซึ่งได้ผสมผสานระหว่างธรรมชาติกับสังคมเมืองได้อย่างลงตัว