ค่ำแล้วจะไปไหนเอย – วัดเรืองแสง หนึ่งวัดที่น่าไปตอนค่ำ

สำหรับเด็กรุ่นใหม่แล้ว วัดคงไม่ใช่ตัวเลือกแรก ๆ ที่นึกอยากจะไปเมื่อมีเวลาว่างแล้วอยากจะไปออกทริปสักที่หนึ่ง ต่างจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าไปมีเยอะแยะมากโขจนไม่นึกว่าจะมีอารามอยู่ในตัวเลือก แต่ถ้าได้รู้ถึงสรรพคุณความเจ๋งของวัดสิรินธรวรารามภูพร้าวแล้วล่ะก็ คงได้คิดใหม่กันอีกครั้ง เพราะนอกจากจะได้ภาพสวย ๆ ไว้ถ่ายลงอวดเพื่อน ๆ ในโซเชียล ความรู้สึกระหว่างทริปนี้ก็แน่นอนว่างดงามตราตรึงในใจอย่างไม่รู้ลืม

วัดอะไรเรืองแสงได้

ใช่ คุณฟังไม่ผิดแน่ วัดสิรินธรวรารามภูพร้าวที่มีชื่อเล่นว่าวัดเรืองแสงนั้นสามารถเรืองแสงได้จริง ๆ โดยมีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจมาก คือศิลปินผู้สร้างมากฝีมืออย่างช่าง คุณากร ปริญญาปุณโณ ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Tree of souls หรือรุกขชาติแห่งวิญญาณในหนังดังเรื่องอวตารนั่นเอง ซึ่งถ้าใครเคยดูก็คงนึกภาพตามได้ไม่ยาก

แต่ต้นไม้ที่วัดสิรินธรวรารามภูพร้าวนั้นติดอยู่กับผนังด้านหลังของอุโบสถ คล้ายเป็นภาพวาด โดยมีสารเรืองแสงฟอสเฟอร์ช่วยขับแสงออกมาในค่ำคืนที่มืดสนิท

และแน่นอน VWIN ยืนยันได้เลยว่ายิ่งมืดยิ่งสวย เพราะแสงที่เปล่งออกมาจากต้นกัลปพฤกษ์ที่เรืองแสงจะยิ่งส่องสว่าง หากมาในคืนที่ยิ่งมืดสนิทยิ่งดี วันไหนเจอแจ็คพอตมีดาวเยอะ ๆ ก็ยิ่งสวย ถ้าได้กล้องถ่ายรูปดี ๆ มาสักตัว ในวันที่เงียบสงบ ลมนิ่งสนิท พร้อมกับได้ถ่ายภาพ เก็บบรรยากาศในช่วงทุ่มนิด ๆ กลับบ้านไป คงเป็นการจบวันที่เพอร์เฟคไร้ที่ติ แต่มีคำแนะนำว่าถ้าหากอยากจะไปเก็บภาพ ช่วงเวลาหกโมงครึ่งถึงสองทุ่มนั่นแหละจะเป็นเวลาที่พอเหมาะพอเจาะที่สุด

จุดชมวิวอันแสนพิเศษ

นอกจากด้านหลังอุโบสถจะมีต้นกัลปพฤกษ์เรืองแสงแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นตอนพระอาทิตย์ตกดินยามเย็น ที่มีแสงสีส้มฉาบไปทั่วทั้งอาราม ยิ่งส่องกระทบเข้าไปข้างในก็กลายเป็นสะท้อนแสงสีทองจากพระประธานที่ยิ่งมองก็ยิ่งอิ่มใจไปกับความงดงามที่ธรรมชาติบรรจงสรรสร้างขึ้นมา ให้ความรู้สึกคล้ายกับได้ไปป่าหิมพานต์จริง ๆ

อีกทั้งตอนค่ำที่เห็นดวงดาวระยิบระยับเต็มทั่วท้องฟ้า ความเย็นเยียบนิ่งสงบของวัดภูพร้าวถือเป็นอีกหนึ่งข้อดีที่ไม่มีที่ไหนเหมือน ทว่าตอนกลางวัน ที่วัดภูพร้าวก็เป็นอีกหนึ่งวัดมี่มีความวิจิตรตระการตาไม่แพ้วัดไหน ๆ ความประณีตที่ส่งต่อมาผ่านสายตาทะลุเลนส์กล้อง ช่วยกักเก็บความประทับใจที่มีต่อทิวทัศน์อันงดงามได้อย่างดี

ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายในประเทศไทยที่ไม่ได้ไปยาก และควรหาโอกาสไปสักครั้ง การเก็บความประทับใจในรูปแบบของดิจิตอลที่อัพโหลดลงโซเชียลก็นับเป็นอีกหนึ่งกล่องความทรงจำ ที่เชื่อว่าเมื่อหวนย้อนกลับไปดูเมื่อไหร่ก็คงนึกได้เสมอว่าแต่ละที่มีความสวยงาม และอิ่มเอิบไปด้วยความสุขที่อบอวลอยู่ในทริปนั้น ๆ

ตลุยรอบเมืองพัทยากับ 3 พิพิธภัณฑ์ที่สาวก IG ต้องไปเช็คอิน

เมืองพัทยาถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศและมีชื่อเสียงไปทั่วโลก ด้วยภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยชายหาดขนาดยาวหลายกิโลเมตร จึงดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเลือกมาคลายร้อนกันที่นี่ แต่ปัจจุบันพัทยาไม่ได้มีดีแค่ชายหาดสวยงามเท่านั้น เมื่อรอบเมืองพัทยาต่างเต็มไปด้วยพิพิธภัณฑ์หลากหลายสไตล์ให้เลือกรับชม และนี่คือ 3 พิพิธภัณฑ์ที่นักท่องเที่ยวผู้รักการถ่ายภาพไม่ควรพลาดเป็นอันขาด

1. Art in Paradise

                Art in Paradise ตั้งอยู่บริเวณพัทยาเหนือ บนถนนพัทยาสาย 2 ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ภาพวาด 3 มิติแห่งแรกของไทยและมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยพื้นที่ 5,800 ตารางเมตร อัดแน่นไปด้วยผลงานมากกว่า 140 ภาพให้นักท่องเที่ยวเลือกถ่ายรูปได้อย่างสนุกสนาน ซึ่งแบ่งออกเป็นหลากหลายโซน ไม่ว่าจะเป็นภาพลวงตา, โลกใต้ทะเล, ป่าซาฟารี, ศิลปะคลาสสิค, สถาปัตยกรรมสมัยอยุธยา, ประเพณีไทย, ยุคอียิปต์ และยุคไดโนเสาร์ โดยแต่ละภาพจะมีคำแนะนำตำแหน่งการยืนให้กับนักท่องเที่ยวเพื่อการถ่ายภาพให้ออกมาสมจริง โดยเปิดบริการนักท่องเที่ยวทุกวันตั้งแต่เวลา 9.00 – 22.30 น. ค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก (ส่วนสูงไม่เกิน 130 ซม.) 100 บาท ส่วนเด็กความสูงต่ำกว่า 100 ซม. เข้าฟรี

2. Teddy Bear Museum

                Teddy Bear Museum ตั้งอยู่ระหว่างพัทยาเหนือและพัทยากลาง ถือเป็นพิพิธภัณฑ์ตุ๊กตาหมีแห่งแรกและแห่งเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมและเก็บภาพคู่กับตุ๊กตาหมีเท็ดดี้แบร์มากกว่า 2,000 ตัวอย่างใกล้ชิดโดยไม่มีกระจกกั้นเหมือนอย่างพิพิธภัณฑ์ตุ๊กตาหมีแห่งอื่นทั่วโลก ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสและกอดตุ๊กตาหมีได้ทุกตัว ซึ่งทางพิพิธภัณฑ์ได้มีการจัดตุ๊กตาหมีไว้หลายโซน ทั้งโซนอินคา, โซนไดโนเสาร์, โซนฟอสซิล, โซนซาฟารี, โซนใต้ท้องทะเล, โซนคริสต์มาส, โซนอวกาศ, โซนเทพนิยาย, โซนจีน, โซนยุโรป, โซนสนุกสนาน และโซนศิลปะ นอกจากนี้ยังมีร้านจำหน่ายของที่ระลึกเป็นตุ๊กตาหมีหลากหลายแบบอีกด้วย ที่นี่เปิดบริการนักท่องเที่ยวทุกวันตั้งแต่เวลา 9.00 – 22.00 น. ค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ 250 บาท เด็ก (ส่วนสูงไม่เกิน 130 ซม.) 150 บาท ส่วนเด็กความสูงต่ำกว่า 90 ซม. เข้าฟรี

3. Louis Tusaud’s Waxworks

                Louis Tusaud’s Waxworks หรือ พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซด์ ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ห้างสรรพสินค้ารอยัลการ์เด้น บริเวณพัทยาใต้ ภายในเป็นศูนย์รวมหุ่นขี้ผึ้งบุคคลที่มีชื่อเสียงทั่วโลกถึง 68 ตัว ซึ่งปั้นได้เหมือนบุคคลจริงทั้งรูปร่างและขนาด นอกจากนั้นยังตกแต่งบรรยากาศด้วยไฟ แสง สี และกลิ่นให้เสมือนได้ใกล้ชิดกับคนดังจากหลากหลายวงการ ไม่ว่าจะเป็นดารานักแสดง, ศิลปินนักร้อง, นักการเมือง และนักกีฬาที่เป็นระดับสตาร์ที่ VWIN การันตีว่าดังจริง รวมไปถึงตัวละครจากภาพยนตร์ดัง โดยนักท่องเที่ยวสามารถกระทบไหล่คนดังชาวไทยได้ถึง 9 คน ได้แก่ ทาทา ยัง, ลูกเกด เมทินี, ภราดร ศรีชาพันธุ์, เขาทราย แกแล็กซี่, แอน ทองประสม, เคน ธีรเดช, แอ๊ด คาราบาว และจา พนม ทางพิพิธภัณฑ์เปิดบริการนักท่องเที่ยวทุกวันตั้งแต่เวลา 9.00 – 23.00 น. ค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ 600 บาท เด็ก 300 บาท

หากมีโอกาสเดินทางไปเที่ยวพัทยาครั้งหน้า อย่าลืมแวะถ่ายภาพที่พิพิธภัณฑ์ทั้ง 3 แห่งข้างต้นอวดเพื่อน ๆ ชาวเน็ต รับรองว่ายอดกดไลค์และคอมเมนต์ถล่มทลายแน่นอน

เที่ยวตลาดน้ำในไทย สัมผัสบรรยากาศแบบพื้นบ้าน

หากพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในไทยแล้ว ตลาดน้ำก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่จะพลาดไม่ได้เลย โดยวันนี้เราก็ได้รวบรวมตลาดน้ำที่น่าสนใจและควรไปเที่ยวดูสักครั้งมาแนะนำกันด้วย จะมีที่ไหนบ้างก็ต้องไปดูกันเลย

1.ตลาดน้ำอัมพวา

ตลาดน้ำที่มีชื่อเสียงและโด่งดังมากในจังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งก็มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาตินิยมมาเที่ยวกันอย่างแพร่หลาย โดยที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศพื้นบ้าน วิถีชีวิตแบบชาวบ้านริมน้ำ ทั้งยังมีอาหารพื้นบ้านสุดอร่อยให้ได้ลิ้มลองกันอย่างมากมาย ยิ่งหากมาเที่ยวในยามค่ำคืนด้วยแล้ว ก็จะมีบริการล่องเรือชมหิ่งห้อยอีกด้วย

2.ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง

ตลาดน้ำที่จะพาคุณไปสัมผัสกับบรรยากาศแบบชิล ๆ และเสน่ห์น่าหลงใหลที่จะทำให้คุณติดใจ โดยที่นี่นอกจากจะมีอาหารคาวหวาน และสินค้ามากมายให้ได้จับจ่ายใช้สอยกันอย่างเพลิดเพลินแล้ว ก็มีเก้าอี้ไม้ตัวเตี้ยให้คุณได้นั่งทานอาหารและพูดคุยกันอย่างสนุกอีกด้วย ซึ่งตลาดน้ำบางน้ำผึ้งก็ตั้งอยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการนั่นเอง ใครที่ผ่านมาทางนี้ก็ลองแวะมาเที่ยวกันดู

3.ตลาดน้ำทุ่งบัวแดง

อยากชมทุ่งดอกบัวสีแดงที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและสบายตา ก็ต้องแวะมาที่ตลาดน้ำทุ่งบัวแดงกันเลย ซึ่งต้องบอกเลยว่าที่นี่บรรยากาศดีมาก เหมาะกับการพาครอบครัวหรือคนรักมานั่งทานอาหารแบบชิล ๆ ที่สุด หรือจะมานั่งเล่น หยิบมือถือมาแทงบอล VWIN ก็ได้เหมือนกัน และอีกหนึ่งไฮไลท์เด็ดที่จะพลาดไม่ได้เลยเมื่อมาเที่ยวตลาดน้ำทุ่งบัวแดงก็คือการลิ้มลองอาหารพื้นบ้านของที่นี่นั่นเอง ไม่ว่าจะเป็น เฉาก๊วยโบราณ ไก่ย่างบางตาล หรือขนมครกชาววังและอีกมากมาย โดยขอการันตีเลยว่าอร่อยโดนใจอย่างแน่นอน

4.ตลาดน้ำดำเนินสะดวก

สำหรับตลาดน้ำแห่งนี้ก็คงไม่มีใครไม่รู้จัก ซึ่งใครที่เดินทางมาที่จังหวัดราชบุรี ก็ต้องแวะมาเที่ยวตลาดน้ำดำเนินสะดวกเสมอ โดยมีทั้งสินค้าของกิน ของใช้ และสินค้าหัตถกรรมให้เลือกซื้อมากมาย รวมถึงสินค้าของฝากก็มีให้เลือกกันแบบจุใจเช่นกัน โดยเฉพาะผักผลไม้ที่ต้องบอกเลยว่ามีความสดใหม่มาก เนื่องจากพ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่จะนำจากสวนมาขายโดยตรงนั่นเอง

5.ตลาดน้ำ 4 ภาคพัทยา

พัทยาเมืองท่องเที่ยวที่โด่งดัง ซึ่งนอกจากจะมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายแล้ว ก็มีตลาดน้ำที่เต็มไปด้วยบรรยากาศแบบพื้นบ้านให้ได้ลองไปสัมผัสกันอีกด้วย โดยตลาดน้ำ 4 ภาค จะรวบรวมของดีของเด่นจากทั้ง 4 ภาคมาขายที่นี่ ทำให้นักท่องเที่ยวไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงถิ่น แถมยังมีเรือพายไว้บริการสำหรับคนที่อยากล่องเรืออีกด้วย รับรองว่าหากได้ลองแวะมาเที่ยวที่นี่ดูสักครั้งคุณจะต้องชอบ

ต้องบอกเลยว่าในประเทศไทยของเรานี้มีตลาดน้ำให้เที่ยวมากมายจริง ๆ เพราะฉะนั้นอย่าพลาดที่จะลองแวะไปเที่ยวชมกันดู แล้วคุณจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตแบบบ้าน ๆ ที่จะทำให้คุณหลงใหลจนลืมไม่ลง