บล็อก

เที่ยวเมืองไทยแสนโรแมนติกอบอวลด้วยกลิ่นไอแห่งรักตามแบบภาพพรีเวดดิ้ง

การได้ท่องเที่ยวไปในสถานที่แสนโรแมนติกที่มีกลิ่นไอแห่งความรักห้อมล้อม ตามแบบฉบับภาพพรีเวดดิ้งที่เหล่าคู่รักนิยมกัน เป็นบรรยากาศชวนฝันที่ไม่จำเป็นว่าคุณจะต้องเป็นเจ้าสาวเจ้าบ่าวหรืออยากถ่ายพรีเวดดิ้ง คุณก็สามารถพาตัวเองไปสัมผัสบรรยากาศดี ๆ ดั่งกำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความรักที่สถานที่หรือธรรมชาติโอบกอดให้ความรักกับคุณ และคุณไม่จำเป็นต้องเดินทางไปไกลถึงเมืองนอก เพราะคุณสามารถสัมผัสสถานที่เหล่านี้ได้ง่าย ๆ ในเมืองไทยนี่เอง

เที่ยวเมืองไทยโรแมนติกได้ไม่แพ้ต่างประเทศ

ท้องทะเลโอบอุ้ม ทะเลสวยกับเมืองไทยเป็นของคู่กัน เรามีทะเลสวยมากมาย บางสถานที่ติดทะเลเปี่ยมด้วยกลิ่นอายสุดโรแมนติก ถ้าคุณได้ไปยืนอยู่ตรงนั้น คุณจะรู้สึกราวกับทะเลกำลังโอบอุ้มคุณอยู่ ตัวอย่างเช่น เกาะสีชัง ชลบุรี เกาะเล็ก ๆ ที่เคยเป็นสถานพักตากอากาศของเหล่าราชนิกุลในอดีต ทำให้มีจุดชมวิวและถ่ายรูปสุดคลาสสิคเป็นศาลาเล็ก ๆ และสะพานไม้สีขาวน่ารักที่ยื่นออกไปในทะเลอย่าง “สะพานอัษฎางค์” แห่งพระจุฑาธุชราชฐาน, หาดตลิ่งงาม เกาะสมุย อันขึ้นชื่อในการชมพระอาทิตย์ตกดิน เนื่องด้วยด้านหน้าหาดมีเกาะสี่เกาะห้าที่ช่วงพระอาทิตย์ตกจะตกลงระหว่างเกาะ2เกาะทำให้ดูสวยงามโรแมนติกมาก และ อุทยานแหลมหญ้า หมู่เกาะเสม็ด ระยอง ด้วยลักษณะพิเศษของแหลมที่ยื่นออกไปในทะเลประกอบกับหอคอยสีขาวและสะพานไม้ริมทะเล ความโรแมนติกปนเท่นี้ อาจทำให้คุณอยากหยุดเวลาไว้ ณ ที่แห่งนี้

ขุนเขาดอกไม้โอบกอด ความอุดมสมบูรณ์ของลักษณะภูมิประเทศในเมืองไทย ทำให้เรามีภูเขาสวย ๆ แมกไม้เขียวชอุ่มและทุ่งดอกไม้นานาชนิด ที่ถ้าคุณลองได้สัมผัสแล้วคุณจะหลงรักเมืองไทยและนึกดีใจในความโชคดีที่เรามีธรรมชาติที่งดงามมากมายโอบกอดเราอยู่ ตัวอย่างเช่น ปางอุ๋ง แม่ฮ่องสอน ด้วยทิวเขาสลับซับซ้อนรวมกับอ่างเก็บน้ำที่รายล้อมด้วยป่าสนและดอกไม้เมืองน้ำ สวยงามดั่งสวรรค์บนโลกมนุษย์, ทุ่งทานตะวัน ลพบุรี บรรยากาศสวยงามสดใสจากทุ่งดอกทานตะวันสีเหลืองกระตุ้นให้คุณรู้สึกร่าเริงมีชีวิตชีวา และ สวนผึ้ง ราชบุรี ที่มีภูมิทัศน์อันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นทุ่งหญ้าเขียวชอุ่มกับฝูงแกะสุดน่ารัก หรือ แมกไม้เขียวชอุ่มตัดกับโรงแรมหลากสไตล์ให้ความรู้สึกเหมือนได้ไปเที่ยวต่างประเทศ ล้วนแต่มีเสน่ห์ดึงดูดให้คุณอยากกลับไปเยี่ยมเยือนซ้ำแล้วซ้ำอีก

เมืองสวยโอบล้อม ไม่ว่าจะเป็นย่านเมืองเก่าสุดคลาสสิคหรือความหลากหลายของเมืองใหญ่ในไทย ล้วนสวยงามคล้ายกับว่าเมืองใหญ่ที่โอบล้อมเราอยู่กำลังส่งความรักและพลังชีวิตให้กับเรา ตัวอย่างเช่น อยุธยา เมืองเก่าที่สวยงามคลาสสิค ด้วยโบราณสถานรายล้อม อาจทำให้คุณเหมือนกับได้ย้อนเวลากลับไปสัมผัสอดีต และกรุงเทพมหานคร เมืองหลวงที่ไม่เคยหลับใหล มีแม่น้ำเจ้าพระยาทอดตัวยาวประกอบกับภูมิทัศน์ริมน้ำงามจับตา ทำให้คุณปฏิเสธไม่ได้ว่าเมืองใหญ่ก็มีเสน่ห์และบรรยากาศชวนฝันได้อย่างคาดไม่ถึง

เพราะโชคดีที่อยู่เมืองไทย อย่าลืมรักษาความโชคดีนี้ไว้

                เพราะคุณโชคดีที่เมืองไทยมีสถานที่สวยงามมากมาย ดั่งคุณมีความรักมากมายรายล้อมอยู่รอบตัว แต่ถ้าคุณไม่รู้จักดูแลรักษาความรักนี้ไว้ วันหนึ่งความโชคดีของคุณอาจหมดไป ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเลือกไปเที่ยวที่ไหน อย่าลืมให้ความรักกลับไปด้วยการดูแลและเที่ยวอย่างให้เกียรติสถานที่อยู่เสมอ เพื่อที่เราจะได้สัมผัสความสวยงามเหล่านี้ไปอีกนาน

ตามหา Street Art แดนใต้ ศิลปะบนกำแพงสุดฮิปที่คนรักศิลปะไม่ควรพลาด

เมื่อแดนใต้ไม่ได้มีดีแค่ทะเลสวยอีกต่อไป แต่ยังมีสถานที่เที่ยวแนวใหม่ที่เหล่าศิลปินสตรีทอาร์ตมาความสามารถได้ฝากผลงานศิลปะบนกำแพงสุดฮิปเอาไว้ให้คุณได้ชม ไม่ว่าคุณจะอยากถ่ายรูป เช็คอิน หรือเพียงอยากมาชมผลงานซึมซับงานศิลป์ก็คุ้มค่าที่คุณจะได้แวะมาเที่ยวตามสถานที่เหล่านี้

เสน่ห์สตรีทอาร์ตแดนใต้ที่ไม่ควรมองข้าม

สตรีทอาร์ต สงขลา จุดชมสตรีทอาร์ตที่มีเสน่ห์มากและเป็นเหมือนแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดสงขลา อยู่บริเวณสี่แยกถนนนางงามตัดถนนรามัน เขตเทศบาลนครสงขลา ด้วยความที่อยู่ในเขตเมืองเก่าทำให้ภาพสตรีทอาร์ตบริเวณนั้นเต็มไปด้วยความคลาสสิคบอกเล่าเรื่องราวและวิถีชีวิตดั้งเดิมของไทยเอาไว้ อันเป็นผลงานของอาจารย์และนักศึกษาจากสาขาศิลปกรรมและการออกแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ตัวอย่างเช่น “ภาพร้านน้ำชา ฟุเจา” ที่มีคุณลุงสามคนกำลังนั่งดื่มน้ำชา อ่านหนังสือพิมพ์และพูดคุยกันอย่างออกรส และอีกจุดเก๋ๆ คือ “ภาพโรงสีแดง หับ โห้ หิ้น” บริเวณประตูม้วนเหล็กซึ่งต้องรอเวลาปิดประตูลง หน้าสำนักงานภาคีคนรักเมืองสงขลาสมาคม ที่มีเด็กชาย 2 คน กำลังพูดคุยกับทหารญี่ปุ่นที่มายึดโรงสีแดงเป็นคลังเวชภัณฑ์

สตรีทอาร์ต ตรัง จุดชมสตรีทอาร์ตเด่นๆในจังหวัดตรังอยู่บริเวณถนนราชดำเนิน ใกล้สี่แยกท่ากลาง และซอยไทรงาม  นอกจากนี้ยังสามารถเที่ยวไปตามตรอกซอกซอยในเขตเทศบาลเมืองกันตังคุณจะได้พบกับผลงานสตรีทอาร์ตจากศิลปินชาวตรังและศิลปินจิตอาสาที่ฝากผลงานสวยๆ บนกำแพงไว้เพื่อสื่อถึงความเป็นจังหวัดตรัง ตัวอย่างเช่น “ภาพสวนยางพารา” แสนร่มรื่นที่บ่งบอกถึงความเป็นถิ่นกำเนิดยางพารา หรือจะเป็น “ภาพสล็อตในคราบชาวประมง” ที่สื่อถึงอาชีพหลักของคนท้องถิ่นในจังหวัดตรัง

สตรีทอาร์ต ภูเก็ต จุดชมสตรีทอาร์ตใจกลางภูเก็ตนี้ ตั้งอยู่บริเวณถนนดีบุก ใกล้กับถนนกลาง บริเวณสี่แยกอาหารพื้นเมืองลกเที้ยน 100 Of Arts ขนมศิลปะและบ้านเลขที่ 100 เป็นผลงานส่งเสริมศิลปะที่กลุ่มนักเรียน นักศึกษา และศิลปินหลายท่านได้ฝากไว้บนกำแพง ด้วยสีสันที่สดใสและความคิดสร้างสรรค์ทำให้กลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดภูเก็ตที่คุณไม่ควรพลาด ตัวอย่างเช่น “ภาพรวมขนมหวาน” สีสันสดใสที่อาจทำให้คุณเกิดอาการอยากของหวานขึ้นมาได้ไม่ยาก

สตรีทอาร์ต กระบี่ จุดชมสตรีทอาร์ต 9 จุดจากศิลปิน 9 คน อยู่บริเวณสี่แยกโครมันยอง ไม่ไกลจากกันมากนัก โดยผลงานนี้อยู่ในโครงการถนนศิลปะเมืองกระบี่ Krabi Street Art Gallery ที่แสดงภาพบนกำแพงเพื่อโชว์เอกลักษณ์อันโดดเด่นของจังหวัดกระบี่ออกมา ตัวอย่างเช่น “ภาพนางรำมโนราห์” ที่มีนางรำในชุดมโนราห์เต็มยศสุดน่ารัก 3 คนส่งยิ้มสดใสเชิญชวนให้ท่านต้องเผลอกดชัตเตอร์ถ่ายรูปกลับมา

สตรีทอาร์ต ยะลา จุดชมสตรีทอาร์ตใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อสร้างความรู้สึกที่ดีและลดบรรยากาศตึงเครียด สะท้อนถึงเสรีภาพและความสงบสุข บริเวณถนนนวลสกุล เขตเทศบาลนครยะลา จากศิลปินหลายท่าน ตัวอย่างเช่น ศิลปินกราฟฟิตี้มือฉมังอย่างคุณ พัชรพล เจ้าของผลงาน “น้องมาร์ดี เด็กน้อย 3 ตา” หน้าตาบึ้งตึงแต่น่าเอ็นดู ที่ได้สื่อสารผ่านผลงานให้ผู้ชมรู้สึกผ่อนคลาย ส่งผ่านความต้องการเสรีภาพและความสงบสุขของผู้คน

ศิลปะนอกพิพิธภัณฑ์ที่สัมผัสได้จากข้างทาง

                ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่มีหัวใจรักศิลปะหรือไม่ เพียงแค่คุณได้ท่องเที่ยวและได้ชมภาพศิลปะสตรีทอาร์ตเหล่านี้ก็นับว่าคุ้มค่า เพราะคุณได้มาสัมผัสกับศิลปะนอกพิพิธภัณฑ์ที่เปี่ยมด้วยเจตนารมณ์และความหมายอย่างลึกซึ้ง เที่ยวแดนใต้ครั้งถัดไปอย่าลืมแวะไปตามหา Street Art

เที่ยวย้อนยุคแบบไทยสไตล์ ตามรอยละครดังอย่าง บุพเพสันนิวาส และ ทองเอก หมอยาท่าโฉลง

ความดังเปรี้ยงปร้างของละครย้อนยุคอย่างบุพเพสันนิวาส และ ทองเอก หมอยาท่าโฉลง ทำให้แฟนละครหลายคนอินชนิดที่ว่าละครจบ คนไม่จบ บางคนอาจจะอยากสวมชุดไทยแบบพี่หมื่นแม่การะเกด บางคนหันมาสนใจสมุนไพรไทยตามคุณหมอทองเอกสุดหล่อ แต่ที่ขาดไม่ได้คือ การได้ไปท่องเที่ยวเยี่ยมเยือนสถานที่จริงที่เกี่ยวข้องกับละครดัง เพื่อตามรอยละครและซึมซับความรู้สึกย้อนยุคเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในสมัยอยุธยา ซึ่งเป็นความโชคดีที่สถานที่เหล่านี้อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพ ฯเลย ใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 4 ชั่วโมง คุณก็สามารถสวมบทบาทเป็นแม่การะเกดหรือพ่อทองเอกท่องเที่ยวไปยังสถานที่แห่งอดีตอันสวยงามล้ำค่าทั้งทางวัฒนธรรมและต่อจิตใจ

รู้แล้วรออะไรหยิบชุดไทยมาสวม แล้วเที่ยวย้อนยุคไปด้วยกันกับเรา

อยุธยา เมืองเก่าของเราแต่ก่อน แน่นอนว่าจะย้อนยุคทั้งทีจังหวัดอยุธยาถือเป็นตัวเลือกแรก ๆ ที่ทุกคนต้องนึกถึงและพลาดไม่ได้เด็ดขาด ด้วยวัดวาอารามหลวงเก่าจำนวนมากที่ดั่งหยุดเวลาไว้ให้คนรุ่นหลังได้ย้อนกลับมาสัมผัสอดีตดั่งแม่การะเกด ตัวอย่างเช่น วัดไชยวัฒนารามที่ยิ่งใหญ่งดงามเป็นสมบัติของชาติไทยที่ควรภาคภูมิใจ, วัดพุทไธศวรรย์อันเก่าแก่ที่ยังคงความงดงามและสมบูรณ์, อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา 1 ในมรดกโลกที่เปี่ยมด้วยมนต์ขลังแห่งอดีต, พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยาที่ได้ชื่อว่าเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย และ เรือนไทยสายน้ำ จามจุรีเรือนหมอทองเอกที่ถูกเนรมิตให้เหมือนเรือนทาสสมัยโบราณมากที่สุด

สมุทรปราการ แหล่งรวมวัฒนธรรมที่ซ่อนอยู่ในอาณาจักรอุตสาหกรรมอย่างเมืองโบราณ ด้วยการจำลองสถานที่และวัฒนธรรมอันหลากหลายที่สำคัญของไทยไว้หลายยุคหลายสมัย เช่น ตลาดน้ำเก่าจำลอง หรือ วัดวังจำลองต่าง ๆ ทำให้เป็นที่นี่กลายเป็นสถานที่ยอดฮิตที่ใช้ถ่ายทำละครและภาพยนตร์ย้อนยุค ถ้าคุณอยากเที่ยวย้อนยุคและไม่อยากเดินทางไกล ๆ เมืองโบราณคือสถานที่ที่คุณควรมาเยี่ยมเยือน

สระบุรี ผู้ที่หลงใหลในความงามของบ้านทรงไทยสมัยโบราณไม่ควรพลาด มาแวะชมความงามของบ้านไม้ทรงไทยโบราณที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีเพื่อใช้เป็นแหล่งเรียนรู้กันได้ที่หอวัฒนธรรมพื้นบ้านไทยวน แอบกระซิบว่าที่นี่แหละบ้านของคุณพี่หมื่น

ลพบุรี อีกหนึ่งจังหวัดที่เคยมีบทบาทสำคัญทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างมาก จึงเป็นที่ที่ผู้ที่อยากเที่ยวย้อนยุคควรแวะมา ไม่ว่าจะเป็น พระที่นั่งไกรสรสีหราช สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ดาราศาสตร์ไทย พระที่นั่งที่เคยใช้ศึกษาจันทรุปราคา และบ้านหลวงวิชาเยนทร์ สถานที่รองรับคณะทูตที่มาเข้าเฝ้า สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช นับได้ว่ามีความงดงามและเปี่ยมด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์แทบทั้งสิ้น

ปทุมธานี อีกหนึ่งปริมณฑลที่นักท่องเที่ยวย้อนเวลาอาจนึกไม่ถึง ตามหมอทองเอกมาจะเจอว่าที่นี่มีวัดสิงห์ วัดเก่าแก่ที่สันนิษฐานว่าสร้างมาตั้งแต่ยุคพระนารายณ์เป็นวัดแบบอยุธยาแท้ดั้งเดิม เกือบ100% รักษาไว้ซึ่งโบราณสถาน โบราณวัตถุ และสถาปัตยกรรมอย่างเต็มเปี่ยม ซึ่งคุณควรไปเยี่ยมเยือนสักครั้ง

เที่ยวอย่างมีสำนึกรู้รักษ์ความเป็นไทยส่งต่ออดีตไปยังอนาคต

                การที่เราสามารถท่องเที่ยวย้อนยุคได้ นับเป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่บรรพบุรุษของเราสร้างสรรค์และรักษาสมบัติของชาติมาอย่างยาวนาน ดังนั้นการที่เราเป็นนักท่องเที่ยวที่ดี เคารพกฎสถานที่และดูแลรักษาสมบัติชาตินับเป็นหน้าที่ที่ควรทำ เพื่อที่เราจะได้ส่งต่อความงามและประวัติศาสตร์ไทยที่สมบูรณ์ที่สุดจากอดีตไปยังอนาคตสืบต่อไป

ภูเขาในจังหวัดเลย ที่ต้องไปในหน้าหนาวสักครั้งหนึ่งในชีวิต

ในหน้าหนาวนั้นหากจะพูดถึงที่เที่ยวคงหนีไม่พ้นทางภาคเหนือตามภูเขาต่าง ๆ ซึ่งมีบรรยากาศที่ดี อากาศบริสุทธิ์ อีกทั้งทัศนียภาพรอบด้านที่งดงาม หากไปเที่ยวชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าจะยิ่งทำให้มีความสดชื่นเหมือนได้รับพลังงานบางอย่างเข้ามาเติมเต็มให้ชีวิตมีพลังสู้ต่อไปได้ ซึ่งภูต่าง ๆ ที่ผู้คนนิยมไปเที่ยวนั้นมีอยู่มากมายทั้งทางภาคเหนือและภาคอีสานที่จะมีภูเขาขนาดใหญ่และเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศไทยหลากหลายภูด้วยกัน ซึ่งผู้ที่นับว่าเป็นที่นิยมตลอดกาลในจังหวัดเลยนั้นมีดังต่อไปนี้คือ

ภูกระดึง จ.เลย ซึ่งมีตำนานได้กล่าวเอาไว้ว่าเป็นภูแห่งการพิสูจน์รักแท้ของหนุ่มสาวที่เป็นแฟนกัน ซึ่งมีคู่รักหลายคู่ที่มาเที่ยวที่ภูกระดึงนี้และได้เลิกรากันไป เนื่องจากทางขึ้นไปบนยอดภูเขานั้นมีความลำบากมาก เราจะเห็นว่าคนรักของเรานั้นรักเรามากแค่ไหนได้ แต่ก็มีอีกหลายคู่ที่สามารถขึ้นไปถึงยอดภูอย่างปลอดภัยและมีความสุข ซึ่งมาถึงบนยอดภูนี้แล้วจะทำให้พวกเขารักกันมากยิ่งขึ้น ซึ่งคนที่ไปถึงด้านบนยอดภูเขาสามารถตั้งแคมป์เพื่อดูดาวและพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าได้

ภูเรือ จ. เลย ซึ่งตั้งอยู่บนอุทยานแห่งชาติภูเรือ สาเหตุที่เรียกว่าภูเรือนั้นเนื่องจากภูเขามีลักษณะยื่นออกมายาวคล้ายกับหัวเรือ มีอาณาเขตติดอยู่กับประเทศลาว ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านของเรานั่นเอง นับเป็นจุดท่องเที่ยวบนยอดภูเขาที่มีความสวยงามอีกสถานที่หนึ่ง ซึ่งผู้คนนิยมมาเที่ยวกันในหน้าหนาวอย่างคับคั่ง น้ำค้างที่หล่นลงบนปลายหญ้าจะแปรสภาพเปลี่ยนเป็นแม่คะนิ้ง ซึ่งประเทศไทยไม่ได้พบเห็นกันได้บ่อยแต่สามารถพบเจอได้ที่ภูเรือ

ภูผาหมวก จ. เลย เป็นภูที่สามารถชมทะเลหมอกยามเช้าในหน้าหนาวได้เป็นอย่างดี ซึ่งทะเลหมอกที่เห็นนั้นจะค่อนข้างหนาและสวยงามมากในยามพระอาทิตย์ขึ้นหรือตกดิน หากมองไปในมุมกว้างจะเห็นเป็นทิวเขาระหว่างชายแดนไทยลาวสลับซับซ้อนกันไปมาสวยงาม ซึ่งมีหลายคนอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อนี้เนื่องจากเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ยังไม่มีการโปรโมทมากเท่าใดนัก แต่รับรองได้ว่าหากใครได้ไปแล้วจะต้องไปซ้ำสองอีกแน่นอน

จังหวัดเลยยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมาก นอกจากภูเขาแล้วยังมีป่าเขาลำเนาไพรพื้นที่ราบ และสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกมากมาย ซึ่งสำหรับผู้ที่สนใจการท่องเที่ยวประเภทนี้สามารถไปเที่ยวได้ในทุกฤดูกาล แต่หากต้องการเห็นยอดน้ำค้างหรือแม่คะนิ้งและทะเลหมอกนั้นควรจะไปในฤดูหนาวจะดีที่สุด ถึงแม้จะมีปริมาณนักท่องเที่ยวค่อนข้างมากแต่รับรองได้ว่าจะได้ความสุขและอาจได้มิตรภาพใหม่ ๆ กลับมาอีกด้วย นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิตเลยก็ว่าได้      

สวนสนุกในไทยถ้าไม่ไปจะคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง

ไม่ว่าจะอยู่ในวัยไหนก็ตามย่อมต้องการที่จะปลดปล่อยความสนุกสนานออกมาบ้าง เพื่อผ่อนคลายความเครียดและความเหนื่อยล้าจากการทำงาน สวนสนุกถือว่าตอบโจทย์สำหรับผู้รักความท้าทายและชอบลองอะไรแปลกใหม่ที่น่าหวาดเสียว  ซึ่งหากกล่าวถึงสวนสนุกแล้วนั้นผู้คนส่วนมากมักนึกถึงเด็กที่ชอบไปเที่ยวกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วผู้ใหญ่ก็สามารถไปเที่ยวสวนสนุกได้เช่นกัน ซึ่งเครื่องเล่นบางชนิดนั้นเหมาะกับผู้ใหญ่เสียมากกว่าอีกด้วย โดยแต่ละสวนสนุกนั้นจะมีเครื่องเล่นและกิจกรรมที่แตกต่างกันไป รวมทั้งมีรูปลักษณ์ภายนอกและการตกแต่งสวนที่มีแบบฉบับไม่เหมือนกัน จึงทำให้คนที่รักในการเล่นเครื่องเล่นเหล่านี้ตามหาสวนสนุกเพื่อที่จะเล่นปลดปล่อยความเป็นตัวเองออกมาได้อย่างเต็มที่ ซึ่งสวนสนุกที่มีเครื่องเล่นสุดมันส์ในประเทศไทยนั้นและอยู่ไม่ไกลจากจังหวัดกรุงเทพฯ มีอยู่มากมาย แต่ที่ดังและมีเครื่องเล่นที่หลากหลายนั้นมีอยู่ 3 ที่ด้วยกันคือ

ดรีมเวิลด์ ซึ่งเป็นสวนสนุกที่มีชื่อเสียงมากซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี มีเครื่องเล่นที่หลากหลายและแปลกใหม่ เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย นอกจากนี้ยังมีสวนน้ำมหาสนุกไว้สำหรับครอบครัวอีกด้วย สวนสนุกดรีมเวิลด์นั้นมีชื่อเสียงในเรื่องหิมะซึ่งทางสวนสนุกได้จำลองหิมะขึ้นมาเพื่อให้คนที่ไม่เคยไปต่างประเทศและสัมผัสกับอากาศหนาวได้เข้าไปสัมผัสและใช้บริการกัน สวนสนุกแห่งนี้เปิดให้บริการเวลา 10:00 น. ถึง 17:00 น. ทุกวัน แต่วันเสาร์อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์จะเลื่อนเวลาปิดเป็นเวลา 19:00 น. เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้มีเวลามากเป็นพิเศษในวันหยุด  

ซานโตรินี่พาร์ค วอเตอร์ แฟนตาซี เป็นสวนสนุกที่เพิ่งเปิดใหม่ได้ไม่นาน ตั้งอยู่ในอำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี โดยแบ่งโซนของสวนสนุกออกเป็น 2 ส่วนด้วยกันคือ เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ และอีกโซนจะ มีเครื่องเล่นที่หลากหลายด้วยการตกแต่งสไตล์กรีซยุโรป ทำให้มีมุมถ่ายรูปค่อนข้างเยอะและแปลกตาไม่เหมือนเมืองไทย ในสวนสนุกแห่งนี้จะมีชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ เมื่อเวลาขับรถผ่านไปทางใต้จะเป็นจุดสังเกตได้ชัดเวลาเปิดปิดทำการในวันธรรมดาจะเปิดเวลา 9 โมงครึ่ง ปิดเวลา 6 โมงครึ่ง แต่หากเป็นวันศุกร์ เสาร์และอาทิตย์ จะเปิดให้บริการในเวลา 09:00 น. ถึง 18.30 น. ราคาค่าเข้าผ่านประตูนั้นไม่แพงจะอยู่ที่ 50 บาทเท่านั้น   

สยามพาร์คซิตี้หรือที่เรารู้จักกันว่าสวนสยามทะเลกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นสวนสนุกยอดฮิตของชาวกรุงเทพมหานคร เนื่องจากมีสวนน้ำขนาดใหญ่อยู่ภายในสวนสนุก นอกจากนี้ยังมีเครื่องเล่นที่หลากหลายและมีเครื่องเล่นนำมาใหม่อีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งสวนสยามนี้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาทำให้ไม่น่าเบื่อจำเจ และผู้คนยังหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวชมกันอย่างมากไม่ว่าจะเป็นเด็กผู้ใหญ่หรือหมู่วัยรุ่นก็ตาม ไฮไลท์ของสวนสยามนี้จะอยู่ที่รถไฟเหาะตีลังกาที่สุดแสนจะน่ากลัว เวลาเปิดปิดจะอยู่ที่ 10:00 น. ถึง 17:00 น. บัตรค่าเข้านั้นสำหรับผู้ใหญ่จะอยู่ที่ 600 บาทต่อวัน เด็กอยู่ที่ 120 บาท แต่หากเป็นเด็กเล็กที่ความสูงต่ำกว่า 101 เซนติเมตรสามารถเข้าชมฟรีได้ ซึ่งถือว่าค่อนข้างแพงมากกว่าที่อื่น แต่ก็คุ้มกับการได้เข้าไปเล่นเครื่องเล่นภายในสวนสนุกแห่งนี้

เมื่อรู้อย่างนี้แล้วไม่ควรพลาดที่จะไปทดลองเครื่องเล่นใหม่ ๆ หรือทำกิจกรรมที่สนุกสนานเพลิดเพลินกับเพื่อน ๆ หรือครอบครัว หรือจะไปแบบคู่รักก็ยังได้ ซึ่งถือว่าการขึ้นเครื่องเล่นเหล่านี้เป็นความท้าทายอย่างหนึ่งและปลดปล่อยความกลัวของตัวเองออกมา

3 สถานที่ท่องเที่ยวตามแนวพระราชดำริ

สถานที่ท่องเที่ยวตามแนวพระราชดำรินั้นเป็นสถานที่ที่เปิดให้ประชาชนบุคคลทั่วไปเข้าไปเที่ยวชมและศึกษาหาความรู้ทางด้านต่าง ๆ ที่มีอยู่ในแต่ละโครงการ เพื่อให้นำประโยชน์จากการเรียนรู้เหล่านั้นมาพัฒนาชุมชนของตนเองต่อไป หรือเพื่อนำความรู้ไปบอกต่อแก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือได้ ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวตามแนวพระราชดำรินั้นนับว่ามีประโยชน์ต่อผู้คนเป็นอย่างมาก ซึ่งส่วนใหญ่นั้นจะจัดทำขึ้นเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้และช่วยเหลือเกษตรกรให้มีความเป็นอยู่ที่พอเพียง สามารถนำความรู้จากโครงการต่าง ๆ มาใช้ประโยชน์กับไร่นาสวนของตนเองได้อย่างลงตัว โดยมีแบบอย่างที่ถูกวางแผนไว้ให้แล้ว เรามี 3 สถานที่ท่องเที่ยวในพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาให้คนที่ยังไม่รู้จักได้ไปเที่ยวชมกันดังนี้คือ

โครงการชั่งหัวมัน จ.เพชรบุรี เป็นโครงการพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยทรงบริจาคที่ดินส่วนพระองค์จำนวน 250 กว่าไร่เพื่อมอบเป็นแปลงปลูกทดลองมันเทศในจังหวัดเพชรบุรีเป็นหลัก นอกจากนี้ยังทรงมีพระราชดำริให้ปลูกผักและผลไม้ซึ่งเป็นพืชการเกษตรท้องถิ่นของจังหวัดเพชรบุรีอีกด้วย และทรงมีพระราชดำริให้ติดตั้งกังหันลมซึ่งสามารถผลิตไฟฟ้าได้ และได้นำระบบนี้ไปผลิตไฟฟ้าใช้ภายในโครงการชั่งหัวมัน และแบ่งส่วนหนึ่งเพื่อจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคโดยทำเป็นศูนย์การเรียนรู้ให้ประชาชนเข้ามาศึกษาและนำไปประกอบวิชาชีพ จึงก่อให้เกิดเป็นรายได้ในแหล่งชุมชนท้องถิ่นขึ้น

โครงการปิดทองหลังพระ จ.น่าน ซึ่ง เป็นโครงการตามแนวพระราชดำริ โดยมีจุดประสงค์เริ่มแรกคือต้องการให้ผืนป่าถูกทำลายน้อยที่สุดโดยการทำการเกษตรปลูกข้าวด้วยวิธีใหม่ โดยการทำนาแบบขั้นบันไดบนภูเขาเพื่อให้ชาวบ้านอยู่อย่างพอเพียง โดยเป็นโครงการนำร่องให้กับชาวบ้านในเขตพื้นที่จังหวัดน่านได้ทำตาม นอกจากนี้ทางโครงการยังมีการสร้างฝายเก็บน้ำเพื่อเอาไว้ใช้ในยามหน้าแล้งได้อีกด้วย โครงการปิดทองหลังพระนี้ ตั้งอยู่ในอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน ซึ่งในปัจจุบันได้ถูกพัฒนาจนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแบบเต็มตัว และมีประชาชนให้ความสนใจเข้าไปร่วมเที่ยวชมเป็นจำนวนมาก

โครงการเขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก ตั้งอยู่ที่อำเภอเมืองจังหวัดนครนายก เป็นเขื่อนที่อยู่ไม่ห่างจากกรุงเทพ ฯ มากนัก มีความสวยงามมาก ซึ่งสร้างขึ้นตามแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อเก็บน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้ง และโครงการเขื่อนขุนด่านปราการชลนั้นยังช่วยเหลือประชาชนและชาวบ้านละแวกนั้นให้ไม่เกิดอุทกภัยน้ำท่วมอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีนักท่องเที่ยวที่ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดเข้ามาเที่ยวชมเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีวิวทิวทัศน์สวยสามารถมองเห็นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้ ซึ่งนับว่าเป็นสถานที่เที่ยวที่นอกจากจะได้ความงดงามทางทัศนียภาพแล้วยังช่วยเหลือชาวบ้านได้อีกด้วย  

ซึ่งโครงการตามแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 นั้นมีมากมายหลายพันโครงการ แต่ที่นำมาให้ชมกันนี้เนื่องจากเป็นโครงการใหญ่และมีผู้ที่สนใจเข้าเที่ยวชมเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีการเดินทางไปยังสถานที่เหล่านั้นได้อย่างสะดวกสบาย รวมทั้งสถานที่เหล่านั้นยังคงมีความเป็นธรรมชาติที่งดงามอยู่ สำหรับคนที่สนใจต้องการท่องเที่ยวและเรียนรู้การทำการเกษตรหรือเพื่อไปพักผ่อนชมบรรยากาศที่งดงามนั้นควรไปให้ได้สักหนึ่งครั้งในชีวิต         

3 สถานที่ดูพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า

ธรรมชาติมักให้อะไรเราเสมอ ทั้งความสวยงามให้เราได้ดื่มด่ำ สอดแทรกไปกับการเรียนรู้ที่ไม่มีวันจบสิ้น พระอาทิตย์คือดาวฤกษ์ทางธรรมชาติดวงหนึ่งที่มีแสงสว่างเจิดจ้าในตัวเอง และลำแสงนี้นอกจากจะให้ผู้คนนำมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้หลากหลายอย่างแล้วนั้น ยังให้ความสวยงามตรึงตาตรึงใจแก่ผู้พบเห็นอีกด้วย  โดยเฉพาะในเวลาใกล้รุ่งและในเวลาเย็นที่แสงของพระอาทิตย์นั้นจะค่อย ๆ จางหายไปอย่างช้า ๆ จนลับขอบฟ้า จนกลายเป็นกระแสนิยมให้สร้างเป็นจุดท่องเที่ยวที่มีผู้คนไปเที่ยวชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกดินเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะบนยอดดอยสูงที่สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ได้เป็นมุมกว้างและสวยงาม ซึ่งสถานที่ดูพระอาทิตย์ตกดินนั้นมีอยู่มากมายในประเทศไทยที่มีความสวยงามทางธรรมชาติเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งสถานที่ที่มีความงดงามยามเย็นเพื่อดูแสงอาทิตย์ลับขอบฟ้าและผู้คนให้ความสนใจไปเที่ยวชมเป็นจำนวนมากมีดังต่อไปนี้คือ   

ผาหล่มสักภูกระดึง จังหวัดเลย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวชอบไปกันมากในช่วงฤดูหนาว เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าและตกในยามเย็น ซึ่งการจะไปเที่ยวหรือตั้งแคมป์อยู่บนภูกระดึงนั้นผู้ที่ไปจะต้องมีความแข็งแรงทางด้านร่างกาย และชอบการผจญภัย เนื่องจากจำเป็นที่จะต้องเดินขึ้นไปด้านบนยอดเขาเพื่อให้ถึงจุดชมวิวที่สามารถชมพระอาทิตย์ได้อย่างงดงามที่สุด ซึ่งบนยอดดอยภูกระดึงนั้นสามารถมองเห็นผืนป่าได้เป็นบริเวณกว้าง เมื่อยามพระอาทิตย์ตกดินมาถึงท้องฟ้าจะกลายเป็นสีทอง ซึ่งเป็นภาพที่สวยงามจับตาเป็นอย่างมาก    

จุดชมวิวเนินนางพญา จังหวัดจันทบุรี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความโดดเด่นตรงถนนที่ตัดเลียบไปกับชายทะเล ซึ่งจุดชมวิวเนินนางพญานี้จะสามารถมองเห็นดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าอัสดงตกลงในทะเลอย่างสวยงาม ซึ่งภาพก่อนที่พระอาทิตย์จะลับขอบฟ้าไปนั้น จะเห็นเป็นเหมือนดวงอาทิตย์อยู่สองดวง ซึ่งเป็นเงาในน้ำทะเลที่สะท้อนลงมาจากดวงอาทิตย์ ทำให้กลายเป็นภาพที่น่าประทับใจอย่างยิ่งแก่ผู้พบเห็น

ดอยม่อนจอง จ.เชียงใหม่ ดอยม่อนจองอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย  เป็นอีกดอยหนึ่งที่ถนนหนทางค่อนข้างทุลักทุเลเหมาะสำหรับนักผจญภัยที่ต้องการไปชมพระอาทิตย์ตกดินในยามเย็น  เมื่อพระอาทิตย์เริ่มตกดินนั้นจะเห็นเส้นขอบฟ้าบนยอดเขาเป็นสีทอง ซึ่งหากไปเที่ยวในหน้าหนาวนั้นจะให้บรรยากาศที่โรแมนติกและได้รับความสดชื่น อีกทั้งกลิ่นไอของดอกไม้นานาพันธุ์ที่เบ่งบานบนยอดดอยนั้นทำให้ได้กลิ่นหอมของดอกไม้หลายชนิด คงจะไม่มีอะไรดีไปกว่านั่งชมพระอาทิตย์ตกดินท่ามกลางบรรยากาศที่เย็นสบายในยามนั้นอีกแล้ว

ความงามของธรรมชาตินั้นสามารถหาชมได้ทุกที่ เพียงแต่ว่าเราจะเลือกมองมุมไหน พระอาทิตย์ดวงเดียวกันแต่อยู่ต่างสถานที่ อยู่ต่างเวลากัน ก็สามารถเปลี่ยนแปลงความงดงามนั้นไปได้ ดังนั้นผู้ที่ชอบความงามของดวงอาทิตย์ยามเย็นนั้นไม่ควรพลาดสถานที่ดี ๆ ดังที่กล่าวมาแล้วนี้ เพื่อจะได้เต็มอิ่มกับความงดงามของพระอาทิตย์ตกดินยามเย็น  

น้ำตกวิวสวย ที่ใคร ๆ ก็อยากไปเที่ยว

น้ำตกเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความสวยงามและน่าอัศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งน้ำตกแต่ละสถานที่นั้นจะมีรูปแบบของความงามที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ทั้งความสูงของน้ำตก ความงามของโขดหินที่มีความสลับซับซ้อน รวมทั้งต้นไม้และพืชพันธุ์ที่เกิดขึ้นอยู่บริเวณธารน้ำตก ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้ล้วนเป็นองค์ประกอบให้น้ำตกในแต่ละแห่งนั้นมีความงดงามทั้งสิ้น ซึ่งน้ำตกที่มีวิวสวยในเมืองไทยนั้นมีอยู่หลากหลายสถานที่ด้วยกัน แต่ที่มีความงดงามและดึงดูดให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้าไปเที่ยวชมเป็นจำนวนมากนั้นมีดังต่อไปนี้คือ

น้ำตกเอราวัณ อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี ถือเป็นน้ำตกที่มีความสวยงามมากติดอันดับท็อป 5 ในประเทศไทย มีขนาดใหญ่มากและมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 7 ชั้น ลักษณะของน้ำตกคือมีธารน้ำไหลแยกออกเป็นสองสายเหมือนงาช้าง สองข้างทางของน้ำตกเต็มไปด้วยแมกไม้นานาชนิดที่มีอายุหลาย 100 ปี ซึ่งน้ำตกเอราวัณนั้นตั้งอยู่ริมฝั่งของแม่น้ำแควใหญ่ในเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ การเดินทางไปยังน้ำตกเอราวัณนั้นค่อนข้างง่ายสามารถใช้รถเข้าไปจอดได้ที่อุทยานเลย

น้ำตกแม่ยะ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เหตุผลที่น้ำตกแห่งนี้ถูกเรียกว่าน้ำตกแม่ยะนั้นมาจากมีแหล่งกำเนิดของต้นน้ำจากห้วยแม่ยะนั่นเอง น้ำตกแม่ยะนั้นมีขนาดใหญ่มากที่สุดในจังหวัดเชียงใหม่เลยก็ว่าได้ ผู้คนหรือนักท่องเที่ยวนิยมมาเล่นน้ำบริเวณธารน้ำตกด้านล่างกันเป็นจำนวนมาก และระหว่างเส้นทางการเดินมาน้ำตกนี้ยังมีเส้นทางศึกษาทางธรรมชาติ จุดชมวิวและชมสัตว์น้อยใหญ่สองข้างทาง เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับนักศึกษาหรือผู้ที่ต้องการเข้ามาศึกษาและเรียนรู้สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ และผู้ที่ชอบการถ่ายภาพไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง

น้ำตกทีลอซู เขตสงวนพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง จังหวัดตาก เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งน้ำตกนั้นมีความสวยงามเป็นอย่างมาก เนื่องจากน้ำจะไหลลงมาเป็นชั้นแบบขั้นบันได ซึ่งน้ำตกทีลอซูนั้นมีต้นกำเนิดแหล่งน้ำมาจากห้วยกล้อท้อ ที่มีความกว้างของแผ่นน้ำค่อนข้างใหญ่ เนื่องจากน้ำตกทีลอซูเป็นพรมแดนระหว่างประเทศไทยและประเทศพม่าจึงทำให้ผืนป่าบริเวณนี้มีความอุดมสมบูรณ์สูง มีสัตว์น้อยใหญ่นานาชนิดที่เข้ามาดื่มกินน้ำบริเวณน้ำตกนี้บ่อย นักท่องเที่ยวที่ชอบความท้าทายและรักการผจญภัยแนะนำอย่างยิ่งให้มาที่น้ำตกแห่งนี้ เนื่องจากธรรมชาติยังคงอยู่ครบถึงจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นจำนวนมากแต่ทางเจ้าหน้าที่ของน้ำตกแห่งนี้มีการดูแลเป็นอย่างดี รวมทั้งเส้นทางที่เข้ามากว่าจะเจอน้ำตกนั้นค่อนข้างลำบาก แต่เนื่องจากน้ำตกอยู่ค่อนข้างลึกเพราะเป็นเขตสงวนพันธุ์สัตว์ป่า ทำให้คนที่เข้ามาน้ำตกแห่งนี้ได้จะต้องเป็นผู้ที่มีใจรักในธรรมชาติอย่างแท้จริง

การไปเที่ยวที่น้ำตกนั้นนอกจากจะไปเล่นน้ำเพื่อชำระล้างร่างกายด้วยน้ำที่ใสไหลเย็นและเพื่อความสนุกสนานเพลิดเพลินแล้ว ยังสามารถไปเที่ยวชมเก็บบรรยากาศหรือเก็บภาพตามแหล่งธรรมชาติที่สวยงามนี้ได้อีกด้วย ซึ่งมีช่างถ่ายภาพเข้าไปเก็บภาพบรรยากาศความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยวเหล่านี้เป็นจำนวนมาก เพราะจะได้ภาพที่สวยสมจริงและมีชีวิตชีวาของป่าและแหล่งน้ำที่อยู่รวมกันอย่างอุดมสมบูรณ์ อีกทั้งสัตว์แมลงเล็ก ๆ เช่น ผีเสื้อ แมลงปอ หรือนกนานาพันธุ์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวและผู้ที่รักในธรรมชาติให้เข้ามาท่องเที่ยวยังน้ำตกเหล่านั้น

เที่ยวหมู่บ้านชาวเขาวิถีชีวิตแบบพื้นบ้าน

ชาวเขาเป็นชนเผ่าที่อยู่มานาน บางเผ่านั้นมีอายุนานถึง 100 ปี หมู่บ้านของชาวเขานั้นมักเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ มีสังคมอยู่กันเพียงไม่กี่ครัวเรือน มีชีวิตความเป็นอยู่ที่สมถะ พอเพียง และพออยู่พอกิน ซึ่งวัฒนธรรมของแต่ละชนเผ่านั้นจะไม่เหมือนกันเสียทีเดียว ขึ้นอยู่กับจารีตประเพณีที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ ถึงแม้ในปัจจุบันนี้ยุคสมัยจะเปลี่ยนไปแล้ว แต่ชาวเขาเผ่าต่าง ๆ เหล่านี้ยังคงเหมือนเดิมไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรไปมาก ส่วนใหญ่หมู่บ้านของชาวเขานั้นจะอยู่ลึกเข้าไปจากตัวเมืองค่อนข้างมาก ทำให้มีการเดินทางและการติดต่อสื่อสารค่อนข้างลำบาก สำหรับคนที่รักในการท่องเที่ยวตามแหล่งอารยธรรมชุมชนพื้นเมืองนั้น จำเป็นที่จะต้องเป็นผู้รักการผจญภัยสักนิดหนึ่ง เนื่องจากการเดินทางเข้าไปยังหมู่บ้านชนเผ่าแต่ละหมู่บ้านนั้นจะใช้เวลาค่อนข้างนาน และระหว่างทางถนนจะขรุขระไม่เรียบเนียนและไม่สะดวกสบายเอาเสียเลย ซึ่งหมู่บ้านชาวเขาที่มีวิถีชีวิตแบบพื้นบ้านดั้งเดิมนั้นมีอยู่หลากหลายหมู่บ้านด้วยกัน แต่ที่จะหยิบยกมาพูดถึงนี้เป็นหมู่บ้านชาวเขาที่ผู้คนนิยมไปเที่ยวชมกันมากที่สุดคือ

หมู่บ้านม้งบนดอยปุย ซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวเขาที่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศไทย ภายในหมู่บ้านนั้นยังคงมีความเป็นธรรมชาติสูงและมีวิถีชีวิตความเป็นอยู่แบบชาวเขา แต่เนื่องด้วยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมเข้าไปเที่ยวที่หมู่บ้านม้งบนดอยปุยแห่งนี้มาก จึงนำเอาความทันสมัยของโลกยุคปัจจุบันเข้าไปด้วย จึงเป็นการผสมผสานระหว่างอารยธรรมของชาวเผ่ากับสังคมเมืองสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว ซึ่งผู้เฒ่าผู้แก่นั้นยังคงสวมเสื้อผ้าแบบชาวเขาดั้งเดิมอยู่ แต่จะมีเด็กวัยรุ่นที่มีการใส่เสื้อผ้าแบบคนยุคใหม่อยู่บ้าง สำหรับคนที่ไปท่องเที่ยวหมู่บ้านชาวเผ่าม้งบนดอยปุยนี้สามารถเช่าชุดชาวเขาใส่เพื่อถ่ายรูปได้ และการเดินทางไปยังหมู่บ้านม้งดอยปุยนั้นไม่ได้ยากลำบากมากเท่าใดนัก เนื่องจากมีรถสองแถวที่อยู่ล่างตีนเขาคอยรับส่งอยู่          

ชาวไทยภูเขาเผ่าอาข่าที่หมู่บ้านหล่อโย จ.เชียงราย ซึ่งหมู่บ้านชาวเขาแห่งนี้เป็นที่โด่งดังมาก เนื่องจากชาวเขาเผ่าอาข่านั้นมีวัฒนธรรมแบบเฉพาะของตนเองที่ดูงดงาม ผู้คนที่นี่อัธยาศัยดีและเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยว การแต่งกายของชาวเขาเผ่าอาข่านั้น จะคล้ายกับการแต่งกายในวัฒนธรรมทางภาคเหนือ ผู้ชายจะใส่กางเกงกะเสื้อม่อฮ่อมสีดำ ส่วนผู้หญิงจะใส่กระโปรงกับเสื้อม่อฮ่อมสีดำเช่นเดียวกัน แต่จะมีหมวกที่ประดับประดาไปด้วยเครื่องเงินและสวมถุงเท้ายาวถึงเข่าเพื่อป้องกันความหนาว อาหาร พื้นบ้านของชาวเขาเผ่าอาข่านี้จะเป็นพวกผัดผัก ไข่เจียวสมุนไพร น้ำพริกผักสด หรืออาหารที่มักมีสมุนไพรเข้ามาเกี่ยวข้อง ส่วนการละเล่นพื้นบ้านของชาวเขาเผ่าอาข่านี้จะเป็นพวกลูกข่าง

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบการผจญภัยและชอบเที่ยวชมหมู่บ้านชาวเขานั้น ทั้งหมู่บ้านม้งบนดอยปุยและหมู่บ้านหล่อโยของชาวไทยภูเขาเผ่าอาข่านั้นถือว่าตอบโจทย์ผู้รักการท่องเที่ยวที่ต้องการเห็นวิถีชีวิตของชาวเขาดั้งเดิมเป็นอย่างดี อีกทั้งการเดินทางไปยังสถานที่เที่ยวสองหมู่บ้านนี้ยังเดินทางได้สะดวก การคมนาคมขนส่งเข้าถึง แต่อาจจะต้องมีการเดินเท้าบ้างเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ลำบากแต่อย่างใด

“ท่าศาลา” กับหาดทรายสวยที่หลากหลาย

การเที่ยวริมทะเลนั้นถือเป็นการท่องเที่ยวพักผ่อนของคนทั่วไป ยิ่งหาดทรายยิ่งสวยมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีนักท่องเที่ยวต้องการเข้าไปเที่ยวชมเป็นจำนวนมากเท่านั้น ซึ่งในประเทศไทยนั้นมีหลากหลายชายหาดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความสวยงามหาดทรายสีขาวบริสุทธิ์ แต่วันนี้เราจะพาไปเที่ยวที่อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งยังถือว่าไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวมากนัก แต่ชาวบ้านละแวกนั้นรวมถึงผู้ที่ชอบการท่องเที่ยวแบบส่วนตัวคนไม่พลุกพล่าน นิยมเข้าไปเที่ยวชายหาดบริเวณนั้นกันมาก เนื่องมาจากยังคงมีความสวยงามทางธรรมชาติที่สมบูรณ์ และมีหาดทรายที่สวยงามอยู่หลากหลายหาดด้วยกัน ซึ่งอำเภอท่าศาลานี้จะมีหาดขนาดเล็กอยู่ติดกัน ซึ่งหาดทรายที่ชาวอำเภอท่าศาลานิยมเข้าไปเที่ยวชมนั้นมีดังต่อไปนี้คือ

หาดทรายแก้ว เป็นหาดทรายที่มีผู้คนนิยมไปท่องเที่ยวมากที่สุดในอำเภอท่าศาลา เนื่องจากชายหาดมีความกว้าง และมีร้านอาหารขนาดใหญ่ตั้งอยู่ด้านหน้า รวมทั้งมีพิพิธภัณฑ์หาดทรายแก้วที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามร้านอาหาร รวมทั้งยังมีร้านไอติมโบราณที่เป็นไอติมขึ้นชื่อของหาดทรายแก้วอีกด้วย นอกจากนี้บริเวณหาดทรายแก้วและพิพิธภัณฑ์นั้นจะมีเด็กมาทัศนศึกษาเข้ามาเที่ยวชมอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ใช้หาดแห่งนี้มีความคึกคักมากพอสมควร แต่ในยามเช้านั้นจะค่อนข้างเงียบสงบ คลื่นทะเลบริเวณหาดทรายแก้วนั้นจะมีความแรงและมีเสียงดังมากเป็นพิเศษ เนื่องจากมีโขดหินอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อน้ำทะเลกระทบหินจะเกิดเป็นเสียงดังนั่นเอง    

หาดธารา เป็นหาดทรายที่อยู่ติดกับหาดทรายแก้วจะอยู่บริเวณตอนบนทางด้านเหนือของหาดทรายแก้ว ซึ่งหาดนี้จะมีร้านค้าและร้านอาหารอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งร้านอาหารของหาดธารานั้นใช้วัสดุก่อสร้างที่ทำมาจากธรรมชาติ เช่น ใบจาก ไม้ไผ่ หรือทางมะพร้าว เพื่อให้ใช้หาดดูเป็นแบบท้องถิ่นและได้อารมณ์แบบอยู่ชายทะเลจริง ๆ ริมหาดนั้นมีความเรียบเนียนเม็ดทรายสีสวย ทำให้ผู้ที่ชอบเล่นน้ำสามารถมาเที่ยวชมและลงเล่นน้ำที่หาดธาราได้

หาดซันไรซ์ เป็นอีกหาดหนึ่งที่มีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติเม็ดทรายนิ่มละเอียด สามารถมองเห็นวิวทะเลได้กว้าง บริเวณถนนก่อนจะลงไปชายหาดจะมีต้นมะพร้าวปลูกอยู่เรียงรายเสริมบรรยากาศให้กับชายทะเลได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้อีกด้านหนึ่งของบริเวณหาดซันไรซ์นั้นจะเป็นโขดหินทำให้เหมาะกับผู้ที่ต้องการไปถ่ายรูปและต้องการวิวที่หลากหลาย ซึ่งสามารถได้ทั้งวิวชายหาดและวิวโขดหินริมน้ำทะเลไปพร้อมกัน   

และนี่คือหาดทรายที่อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ผู้คนนิยมไปเที่ยวกัน แต่ชายหาดเหล่านี้ยังคงมีความสมบูรณ์ของธรรมชาติอยู่มาก เนื่องจากมีคนไปเที่ยวกันน้อย ซึ่งผู้ที่ต้องการไปท่องเที่ยวที่คนไม่เยอะมากนั้น อำเภอท่าศาลาถือว่าตอบโจทย์เป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะได้บรรยากาศแบบอยู่ชายทะเลจริงแล้วนั้น ยังให้ความรู้สึกเหมือนเป็นหาดส่วนตัวที่มีคนไม่พลุกพล่าน และยังมีชายหาดให้เลือกหลากหลายสถานที่ให้ไปเที่ยวชม เพราะแต่ละหาดทรายนั้นมีความสวยงามที่ไม่เหมือนกัน จึงเหมาะเป็นอย่างมากกับผู้ที่สนใจไปพักผ่อนในวันหยุด