บล็อก

หน้าฝนใครบอกว่าเที่ยวไม่ได้? 5 สถานที่เที่ยวธรรมชาติฉ่ำๆ

ช่วงหน้าฝนแบบนี้หลายคนอาจจะเบื่อหน่ายกับความเฉอะแฉะ และที่สำคัญจะออกไปไหนมาไหนก็ลำบากทำให้ไม่อยากออกจากบ้าน แต่รู้ไหมว่าหน้าฝนแบบนี้ก็เป็นช่วงเวลาดี ๆ ที่มีสถานที่ที่เหมาะสมกับการไปเที่ยวอยู่ด้วยนะ ฝนฉ่ำ ๆ อากาศเย็นสบาย แน่นอนว่าก็ต้องเป็นสถานที่ธรรมชาติที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใบหญ้าสิ ลองมาดูกันว่ามีที่ไหนบ้าง

                1. ป่าในกรุง

                เริ่มจากสถานที่ใกล้ ๆ กรุงเทพก่อนเลย จะบอกว่าที่นี่นอกจากจะไม่ไกลแล้วยังเต็มไปด้วยต้นไม้ ธรรมชาติ สมชื่อป่าในกรุง ที่ตั้งอยู่กลางเมืองจริงๆ! มีทั้งส่วนของ Sky walk ที่ไล่ระดับความสูงเพื่อเดินชมป่ารอบ ๆ ด้านแล้ว ยังมีหอชมวิวที่สูงถึง 23 เมตรเพื่อชมป่าอีก ซึ่งนอกจากไปเดินชมพื้นที่สีเขียวเพลิน ๆ แล้วก็ยังมีพื้นที่ที่เป็นแหล่งเรียนรู้การปลูกป่าอีกด้วย ไปเที่ยวทั้งทีได้ทั้งการพักผ่อนใจแถมยังได้ความรู้ติดมือกลับบ้านด้วยนะ

                2. เขากระโจม ราชบุรี

                เขยิบไปหน่อยทางภาคตะวันตกและยังไม่ไกลกรุงเทพมากนัก ก็มีที่เขากระโจมนี่แหละที่น่าไป ตัวเขากระโจมอยู่ที่อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ซึ่งความสูงของมันทำให้เรามองเห็นทะเลหมอกได้อย่างสวยงาม ยิ่งไปเวลาเช้ามืดรับรองว่าต้องถูกใจแน่นอนกับความงามที่ได้เห็น หากไม่อยากพลาดทะเลหมอกแนะนำให้ไปช่วงปลายฝนต้นหนาว และที่สำคัญคือการได้มองวิวที่เห็นได้ทั้งประเทศไทยและพม่า แค่นี้ก็คุ้มแล้วจริงๆ

                3. ทุ่งดอกกระเจียว ชัยภูมิ

                ตัวทุ่งดอกกระเจียวอยู่ที่เขตอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม โดยในช่วงฤดูฝนจะเป็นช่วงที่ดอกกระเจียวเบ่งบานมากที่สุดทำให้เกิดภาพผืนป่าสีเขียวที่เต็มไปด้วยดอกไม้สีชมพูละลานตา หากไปหลังฝนตกจะได้เห็นหมอกลงกลางสวน เหมาะแก่การถ่ายรูปและชื่นชมธรรมชาติอันสวยงาม นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการให้ความรู้ในเรื่องของทุ่งดอกกระเจียวอีกด้วย

                4. น้ำตกไทรโยค กาญจนบุรี

                น้ำตกไทรโยคเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ควรไปเยือนสักครั้ง เป็นน้ำตกที่อยู่ใกล้กับตัวเมืองกาญจนบุรีที่สุดด้วยระยะทาง 60 กม. ช่วงที่น้ำเยอะและเหมาะกับการเล่นน้ำก็ต้องเป็นช่วงหน้าฝนแบบนี้แหละ โดยเราสามารถเล่นน้ำได้ตามทางที่อุทยานฯ จัดเอาไว้ และด้วยความที่แอ่งน้ำสำหรับเล่นน้ำไม่ได้มีความลึกมาก หากมีลูกหลานก็สามารถให้เล่นน้ำได้ ถือเป็นการพักผ่อนทั้งเล่นน้ำและชมต้นไม้เขียวชอุ่มไปในตัว

                5. เกาะล้าน พัทยา

                หน้าฝนแบบนี้บางคนไม่อยากไปเที่ยวทะเล แต่รู้ไหมว่ามีทะเลที่เหมาะกับการเที่ยวในช่วงนี้โดยการหลีกเลี่ยงทางฝั่งทะเลอันดามัน มาเที่ยวฝั่งอ่าวไทย เช่น เกาะล้านนั่นเอง และที่สำคัญไม่ไกลกรุงเทพอีกแล้ว การเดินทางต้องข้ามเรือจากตัวเมืองพัทยา แต่เมื่อมาถึงตัวเกาะล้านแล้ว การได้เช่ามอเตอร์ไซค์ขับวนชมรอบเกาะเป็นอะไรที่ขาดไม่ได้เลย จะได้ชมวิถีชีวิต ชมวิวทะเลรอบทาง และยังมีสถานที่มากมายทั้งหาดตาแหวน หาดสังวาล บอกเลยว่าไปเกาะเดียว เที่ยวคุ้ม!

                จะเห็นว่าหน้าฝนไม่จำเป็นต้องอยู่แต่บ้านเสมอไป มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายแนวให้ไปเที่ยวตามกันได้ แต่ที่สำคัญอย่าลืมเตรียมตัวและระมัดระวังอยู่เสมอ รับรองว่าเที่ยวสนุกแน่นอน

ไปเที่ยวกันหาวันหยุดแล้วกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวแบบ Family Tour กันเถอะ

ในยุคนี้เป็นยุคของ Social ไม่ว่าจะครอบครัวไหน รุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ ต่างก็มีโทรศัพท์มือถือติดตัว ต่างคนต่างก้มหน้าอยู่ในโลกอินเตอร์เน็ตจนอาจเผลอลืมคนรอบข้างไป บางทีอาจถึงเวลาแล้วที่เราจะหาโอกาสดี ๆ อยู่ร่วมกับครอบครัว ลองวางโทรศัพท์มือถือลงแล้วออกไปเที่ยวกันเถอะ! เราลองมาดูกันว่าการออกไปเที่ยวข้างนอกและทำกิจกรรมกับครอบครัวนั้นดีอย่างไร

1. พ่อแม่ได้ใช้เวลาร่วมกันกับลูก

บ้านไหนที่มีลูกอายุเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น เริ่มเป็นวัยที่มีโลกส่วนตัวและมีความคิดเป็นของตัวเองสูง นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ลูกจะเริ่มห่างจากเราไป ลองหาเวลาพาลูกออกไปเที่ยวกันเป็นครอบครัวดูสิ นอกจากจะช่วยเปิดโลกกว้างให้ลูกแล้วยังช่วยให้ลูกได้มีประสบการณ์ใหม่ ๆ ในชีวิต ช่วยส่งเสริมพัฒนาการ และหากไปสถานที่ท่องเที่ยวที่มีกิจกรรมระหว่างครอบครัวแล้วล่ะก็จะยิ่งช่วยให้เขามีความสุขและมีความทรงจำดี ๆ ร่วมกับเราด้วยนะ

2. เสริมสร้างกำลังใจให้ผู้สูงวัย

บางครอบครัวที่มีพ่อ แม่ เริ่มมีอายุมาก เราก็อาจจะไม่ค่อยมีเวลาให้ท่าน ลองพาท่านออกไปเที่ยวสถานที่ที่ท่านชอบดูสิ นอกจากจะทำให้ท่านรู้สึกไม่โดดเดี่ยวแล้วยังช่วยให้ท่านมีกำลังใจที่มีลูกหลานเอาใจใส่และช่วยสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเรากับท่านด้วย แต่อย่าลืมล่ะว่าต้องเลือกสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสม ไม่ผจญภัยเกินไป เพื่อให้ท่านได้เที่ยวอย่างสบาย

3. ช่วยกระชับความสัมพันธ์ชีวิตคู่

ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน การได้ออกไปท่องเที่ยวนอกจากจะช่วยผ่อนคลายความเครียดจากชีวิตการทำงานแล้ว ยังถือเป็นการพักผ่อนและสร้างบรรยากาศดี ๆ ระหว่างคู่รักเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นด้วยนะ หากมีเวลาว่างก็อย่าลืมชวนคนข้าง ๆ จัดกระเป๋าแล้วออกไปเที่ยวกันเลย

4. สร้างความทรงจำดี ๆ ร่วมกันในครอบครัว

การเดินทางมักมีเรื่องราวมากมายระหว่างทาง การได้เก็บความทรงจำดี ๆ จุดนั้นร่วมกันไว้ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของครอบครัวผูกพันกันมากยิ่งขึ้นด้วยนะ เมื่อเปิดดูรูปถ่ายหรือกลับมาย้อนนึกถึงทีไรก็จะช่วยสร้างความสุขให้กับครอบครัว ถือว่าได้มีความทรงจำดี ๆ และประสบการณ์การเที่ยวกับครอบครัวที่ย้อนเล่าให้ลูกหลานฟังได้อีกหลายต่อหลายครั้งเลยทีเดียว

5. สานความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัว

การได้ทำสิ่งต่าง ๆ ร่วมกันนอกเหนือจากชีวิตปกติที่บ้านก็ทำให้เกิดความสนิทสนมกันมากขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นระหว่างพี่น้อง พ่อแม่ลูก หรือคู่สามีภรรยา นอกจากนี้ก็ทำให้ทุกคนมีความสุขที่ได้ใช้เวลาร่วมกับคนที่ตัวเองรักอีกด้วย

จะเห็นได้ว่าการได้ออกไปเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ กับครอบครัวนั้นไม่เพียงแต่สร้างความสนุกสนานและผ่อนคลาย ยังช่วยเพิ่มระดับความสัมพันธ์ของครอบครัวให้แน่นแฟ้นยาวนาน สร้างความทรงจำดี ๆ ร่วมกันและสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวใหม่ ๆ ให้กับชีวิต

เที่ยวมาเลเซียเมืองแห่งความหลายหลาย ไม่ว่าคุณชอบเที่ยวแนวไหนมาเลเซียมีคำตอบ

เพื่อนบ้านทางฝั่งตอนใต้ของไทยสมาชิกร่วม AEC ที่คุณอาจไม่เคยสนใจอย่างมาเลเซีย คือหนึ่งในประเทศที่น่าสนใจและรวมความหลากหลายไว้อย่างที่คุณคาดไม่ถึง ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรม ธรรมชาติ หรือความทันสมัย ถูกหลอมรวมกันไว้ในมาเลเซีย รอเพียงให้คุณเปิดใจมาสัมผัสกับความมีเสน่ห์นี้

เที่ยวสุดฟินอินทุกโหมดได้ในมาเลเซีย

                สายรักธรรมชาติ  ไม่ว่าจะทะเลหาดทรายสวย ๆ ภูเขาสูงท้าทายความแข็งแกร่ง ถ้ำสุดลึกลับ หรือป่าใหญ่ แวะมาที่มาเลเซียมีหมดตัวอย่างเช่น “สะพานลังกาวีสกาย (Langkawi Sky Bridge)”ตั้งอยู่บนเกาะลังกาวีดินแดนแห่งตำนานพระนางมัสสุหรี ห่างจากเกาะตะรุเตา จ.สตูล เพียง 4 กม. ความพิเศษของสะพานแขวนนี้คือคุณสามารถมองเห็นวิวทะเลอันดามันได้แบบพาราโนมา โดยมีด้านล่างเป็นผืนป่าใหญ่ และด้วยความสูงกว่า 2,000 ฟุตจากระดับน้ำทะเล ท้าทายความกล้าของผู้ที่ต้องการท้าทายความสูง และ “เกาะสิปาดัน (Sipadan Island) เป็นเกาะเล็ก ๆ ขึ้นชื่อว่ามีจุดดำน้ำที่สวยที่สุดติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก ที่ตั้งอยู่ใจกลางทะเลเซเลเบส ทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐซาบาห์ มีความสวยงาม และความสมบูรณ์ของท้องทะเลอย่างมาก เนื่องจากไม่มีโรงแรมและจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวทำให้บรรยากาศบนเกาะก็เงียบสงบ มีหาดทรายขาวสะอาดทอดยาวล้อมรอบทั้งเกาะ ตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าคราม

                สายรักวัฒนธรรม  ด้วยการผสมผสานของวัฒนธรรมและธรรมชาติ ทำให้มาเลเซียมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนาที่ตั้งอยู่ในธรรมชาติอันสวยงามจำนวนมาก ตัวอย่างเช่น “ถ้ำบาตู (Batu Caves)” ถ้ำแห่งนี้ถือเป็นศาสนสถานศักดิ์สิทธิ์ของผู้นับถือศาสนาฮินดู เป็นถ้ำหินปูนที่เก่าแก่ มียาวถึง 400 เมตรและสูง 100 เมตร ตั้งอยู่ทางเหนือของกรุงกัวลาลัมเปอร์ จุดเด่นของถ้ำบาตู คือ รูปปั้นพระขันธกุมารสีทองงามระยับด้านหน้าบันไดทางขึ้น ซึ่งมีความสูง 42.7 เมตร และวัด ชิน สวี (Chin Swee Caves Temple) วัดแห่งนี้มีพระพุทธรูปแกะสลักจากหินขนาดใหญ่ สร้างตามลักษณะของวัดและเจดีย์จีนตั้งอยู่ที่ความสูง 4,600 ฟุต เหนือระดับน้ำทะเล ทำให้มีความเงียบสงบและเย็นสบาย ตั้งอยู่ในเก็นติ้ง ไฮแลนด์ (Genting Highlands) ห่างจากกัวลาลัมเปอร์ 1 ชม.

                สายรักความทันสมัย เมืองใหญ่ของมาเลเซียคือศูนย์รวมความทันสมัย โดยเฉพาะเมืองหลวงอย่างกัวลาลัมเปอร์  ตัวอย่างเช่น “ตึกแฝดเปโตรนาส” ตึกแฝดที่สูงที่สุดในมาเลเซียสูง 452 เมตร 88 ชั้น เป็นแลนด์มาร์คสำคัญที่ถูกออกแบบมาให้มีการผสมผสานระหว่างความทันสมัยและวัฒนธรรมคล้ายสถาปัตยกรรมอิสลาม อีกทั้งมีการใช้พื้นที่เป็นพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ศูนย์ประชุม แหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ และศูนย์วิทยาศาสตร์สุดทันสมัย ทำให้ตอบโจทย์กับคนยุคใหม่หัวใจไฮเทค

เที่ยวมาเลเซียสุดคุ้มทริปเดียวไม่เคยพอ

                ด้วยความหลากหลายของมาเลเซียทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินและใช้เวลาในช่วงวันหยุดของคุณได้อย่างเต็มอิ่ม ไม่ว่าคุณชื่นชอบการท่องเที่ยวหรือทำกิจกรรมแบบไหน มาเลเซียมีคำตอบให้คุณเสมอ นอกจากน่าเที่ยวแล้วยังไม่ไกล เดินทางสะดวก และไม่แพงมาก ถ้าคุณได้ลองมาเที่ยวแล้วคุณอาจจะติดใจจนอยากตีตั๋วครั้งถัดไปกลับมาเที่ยวมาเลเซียอีก

เที่ยวพม่า เยี่ยมบ้านใกล้เรือนเคียงเรียนรู้วัฒนธรรมรับกระแส AEC

พม่า หรือที่คุณควรเรียกอย่างเป็นทางการว่าเมียนมาร์เป็นหนึ่งในประเทศเพื่อนบ้านที่มีประวัติศาสตร์อันใกล้ชิดมาอย่างยาวนานกับประเทศไทย ยิ่งตอนนี้กระแส AEC หรือ Asean Economics Community ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนกำลังร้อนแรงเป็นอย่างยิ่ง ทำให้ประเทศเพื่อนบ้านของไทยอย่างเมียนมาร์เปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปสัมผัสกับความสวยงามกันมากขึ้น

ทริปหน้าในเมียนมาร์ไปไหนดี

                วัดเมียนมาร์สวยศักดิ์สิทธิ์ เมียนมาร์มีวัดดังจำนวนมากซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามและความศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่ง และเป็นเหมือนซิกเนเจอร์ว่ามาเมียนมาร์ต้องได้ไปไหว้พระ ตัวอย่างเช่น “มหาเจดีย์ชเวดากอง” มหาเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดของเมียนมาร์สวยงามด้วยสีทองระยับจับตา รวมกับความเชื่อที่ว่าได้บรรจุพระเกศ 8 เส้นของพระพุทธเจ้าเอาไว้ทำให้ศักดิ์สิทธิ์มาก ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาเชียงกุตระ เมืองย่างกุ้ง และ “พระธาตุอินทร์แขวน” ที่มีความสวยงามแปลกตาจากการที่มีพระบรมธาตุสร้างอยู่บนก้อนหินขนาดใหญ่สีทองอร่ามซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าพระอินทร์เป็นผู้นำพระธาตุมาแขวนไว้ พระธาตุตั้งอยู่ที่ยอดเขาพวงลวงเมืองไจ้ก์โถ่ รัฐมอญ

                ทะเลสาบเมียนมาร์เปี่ยมเสน่ห์ “ทะเลสาบอินเล” รัฐฉาน เรียกได้ว่าเสน่ห์ดึงดูดของที่นี่นอกจากความสวยงามของท้องทะเลสาบให้เราได้กินลมชมวิวแล้ว ก็คือชนเผ่าท้องถิ่นอย่าง ชาวอินทา ซึ่งมีอาชีพหลักด้านการเกษตรและประมง ที่มีวิธีการหาปลา การพายเรือด้วยเท้า ที่ชาวประมงที่อื่นต้องยกนิ้วให้ในวิธีการพิเศษนี้เลย

                ทะเลเมียนมาร์สวยสะกดใจ ด้วยหาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลสีฟ้าใส หรือเกาะที่มีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ทำให้ทะเลเมียนมาร์มีเสน่ห์ไม่แพ้ทะเลไทยเลยทีเดียว ถ้าคุณไม่เชื่อต้องลองแวะมาพิสูจน์ความงามของทะเลเมียนมาร์สักครั้ง ตัวอย่างทะเลเมียนมาร์ที่มีชื่อเสียงได้แก่ หาดงาปาลี เมืองตั่งตแว รัฐยะไข่ คนรักทะเลสวย หาดทรายขาว ชาวบ้านน่ารัก ไม่ควรพลาด และเกาะหัวใจมรกต (เกาะคอคส์คอมบ์) โดดเด่นด้วยธรรมชาติใต้น้ำทั้งปลาและปะการังนานาชนิด ห่างจาก จ. ระนองประมาณ 80 กม. โดยความพิเศษคือไม่มีชายหาดแต่คุณสามารถว่ายน้ำลอดช่องปากทางเข้าเกาะไปได้ และหากมองจากมุมสูงคุณจะพบว่าช่องกลางเกาะแห่งนี้รูปร่างคล้ายกับหัวใจ

เวียงวังงามตา เมียนมาร์เคยรุ่งเรืองด้วยการปกครองระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ทำให้มีพระราชวังที่สวยงามจับตาจับใจหลายแห่ง ตัวอย่างเช่น พระราชวังบุเรงนอง (พระราชวังกัมโพชธานี) เมืองหงสาวดี เป็นพระราชวังอันยิ่งใหญ่ที่ถูกเผาจนเหลือแต่ซากหลังพระเจ้าบุเรงนองสวรรคต จากกบฏยะไข่ ซึ่งภายหลังได้มีการสร้างพระราชวังจำลององค์ใหม่ขึ้นมาตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์เพื่อแสดงถึงความยิ่งใหญ่เรืองรองที่มีมาแต่อดีต และพระราชวังมัณฑะเลย์ พระราชวังไม้สักทั้งหลังอันสวยงามแห่งสุดท้ายก่อนถูกอังกฤษเข้ายึดครอง เคยได้ชื่อว่าเป็นพระราชวังที่งดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย แต่ถูกเผาจากระเบิดฝ่ายสัมพันธมิตรกองทัพอังกฤษ ภายหลังได้มีการสร้างพระราชวังจำลองขึ้นตามรูปแบบพระราชวังเดิมแม้ศิลปะอาจจะไม่ทัดเทียมของเดิมแต่ก็จัดว่ายังงดงามมาก นอกจากนี้ยังมีสะพานอูเบ็งสะพานไม้สักที่เหลือจากการรื้อพระราชวังเก่าที่ขึ้นชื่อว่าเก่าแก่ที่สุดในโลกอายุกว่า 200 ปี ยาวกว่า 1.2 กม. ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองอมรปุระ ไม่ไกลจากตัวเมืองมัณฑะเลย์ เป็นสะพานที่ใช้ข้ามทะเลสาบตองตะมาน ไปยังเจดีย์เจ๊าตอว์กยี ยิ่งใหญ่ควรค่าต่อการไปเยือน

ทะเลเจดีย์และสะพานอูเบ็ง สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในโลกทีเด็ดที่ไม่ควรพลาด ด้วยเจดีย์จำนวนมากกว่า 4,000 องค์ทำให้ทะเลเจดีย์ เมืองพุกามมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และยิ่งใหญ่มาก ทั้งยังมีไฮไลท์เป็นการลอยบอลลูนขึ้นฟ้าเหนือเจดีย์ ทำให้มีภาพสุดคลาสสิคน่าประทับใจ

แดนพุทธศาสนาล้ำค่าทางวัฒนธรรมอุดมด้วยธรรมชาติ

หากคุณมีเวลาไม่มากและไม่อยากเดินทางไปไหนไกล ๆ แต่ก็อยากเปลี่ยนบรรยากาศไปเปิดหูเปิดตาดูสิ่งน่าสนใจใหม่ ๆ คุณไม่ควรมองข้ามประเทศใกล้ ๆ ลองแวะไปท่องเที่ยวเยี่ยมเยียนเพื่อนบ้านที่มีทีเด็ดมากมายอย่างเมียนมาร์กันแล้วคุณอาจจะติดใจจนอยากหยุดเที่ยวต่อเลยทีเดียว

เที่ยวสวิสเซอร์แลนด์ สวรรค์บนโลกมนุษย์ที่คุณควรเยือนครั้งหนึ่งในชีวิต

ประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามอย่างที่สุดดั่งสวรรค์บนโลกมนุษย์อย่าง สวิสเซอร์แลนด์ เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่คุณควรเก็บไว้ในใจและหาโอกาสไปเที่ยวเยี่ยมเยียนสักครั้งหนึ่งในชีวิตให้ได้ เพราะมนต์เสน่ห์ของประเทศอาจจะทำให้คุณหลงรักจนอยากจะหยุดเวลาเอาไว้ที่นี่เลยทีเดียว

สวิสเซอร์แลนด์มีอะไรดีที่คุณไม่ควรพลาด

                เที่ยวภูเขาเทือกเขา เรียกได้ว่าเป็นซิกเนเจอร์ของการมาเที่ยวยังประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เนื่องด้วยความที่เป็นประเทศเล็ก ๆ ที่อยู่บนที่สูงและไม่มีชายฝั่งติดทะเล ทำให้มีลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาและเทือกเขาที่มีชื่อเสียงและสวยงามจำนวนมาก ตัวอย่างเช่น “Jungfrau ยอดเขายุงเฟรา” ยอดเขาที่หลายคนบอกว่า ถ้าไม่ได้ไปที่นี่เหมือนมาไม่ถึงสวิสเซอร์แลนด์ เพราะเป็นจุด Top of Europe นอกจากความสวยงามของวิวทิวทัศน์และความเป็นสถานที่ยอดนิยมในการเล่นสกีแล้ว ยังมีถ้ำน้ำแข็งแกะสลักสุดงดงามอยู่ใต้ธารน้ำแข็งที่ไม่เคยละลายที่คุณไม่ควรพลาด, “Matterhorn mountain (แมทเธอฮอร์น)” ภูเขารูปทรงปิรามิดตั้งระหว่างประเทศสวิตเซอร์แลนด์และอิตาลี เป็นภูเขาที่มีหิมะปกคลุมตลอดปี และ “Rigi (ริกิ)” ยอดเขาที่ได้ชื่อว่าเป็นราชินีแห่งเทือกเขา Schwyz Alps ด้วยวิวที่สวยงามโดยรอบแบบ 360 องศา ทำให้คุณต้องตะลึงในความสวยงามของภูเขาแห่งนี้

                เที่ยวไปกับสายน้ำ ชาวสวิตเซอร์แลนด์มักมีคำพูดติดปากที่ว่า เราไม่มีทะเลแต่เรามีทะเลสาบ น้ำตก และธารน้ำแข็ง ด้วยความที่สวิสเซอร์แลนด์มีทั้งน้ำตกขนาดใหญ่อย่างน้ำตกไรน์ ธารน้ำแข็งอเล็ท์ชกลาเซียร์ และทะเลสาบหลายแห่งซึ่งล้วนแต่สวยงามสะอาดตาทั้งสิ้น ทำให้สายน้ำเป็นจุดเด่นซึ่งคุณควรเลือกแวะไปพักผ่อนกายใจในทริป ตัวอย่างเช่น “Lake Geneva (ทะเลสาบเจนีวา)” ไข่มุกของริเวียร่าแห่งสวิส เป็นแหล่งน้ำจืดที่ใหญ่เป็นอันดับสองของทวีปยุโรปกลาง ตั้งอยู่ในเมือง Geneva และมีบางส่วนติดกับฝรั่งเศส อีกทั้งมีน้ำพุ Jet d’Eau ซึ่งเป็นน้ำพุขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงเนื่องจากคุณสามารถมองเห็นเปลวน้ำจากทางอากาศและในตัวเมืองได้ และ “Thunersee (ทะเลสาบทูน)” ตั้งอยู่บริเวณใจกลางของ Bernese Oberland เชิงเขาของเทือกเขา Alps ทำให้มีวิวทิวทัศน์ที่สวยตระการตามากจากการที่ทะเลสาบถูกโอบล้อมไปด้วยขุนเขา

                เที่ยวเมืองยุโรปเปี่ยมเสน่ห์ ด้วยความที่ชาวสวิสเซอร์แลนด์ค่อนข้างเคร่งครัดในเรื่องของการดูแลสิ่งแวดล้อม ศิลปะ และวัฒนธรรม ทำให้เมืองต่าง ๆ ค่อนข้างสวยงามและมีเอกลักษณ์เป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าไม่ว่าคุณจะเลือกพักเมืองไหนก็สวยงามน่าค้นหาไม่แพ้กัน ตัวอย่างเช่น “Interlaken(อินเทอร์ลาเก้น)” เป็นเมืองทางผ่านที่จะขึ้นไปยังยอดเขายุงเฟรา มีภูมิทัศน์สุดตระการตาจากการที่เป็นเมืองกึ่งกลางระหว่างทะเลสาบทูนและทะเลสาบบรีนซ์ มีแม่น้ำอาเรเชื่อมทะเลสาบตัดผ่านกลางเมือง และ “Zurich(ซูริค)” เมืองใหญ่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์เป็นทั้งศูนย์กลางคมนาคม แหล่งรวมสถาบันการเงิน โดดเด่นเรื่องพิพิธภัณฑ์ สถาปัตยกรรม และย่านเมืองเก่า

เที่ยวชมทัศนียภาพด้วยรถไฟ เป็นกิจกรรมหลักที่คุณไม่ควรพลาดเพราะการได้นั่งรถไปในสวิตเซอร์แลนด์จะทำให้คุณอยากถึงปลายทางแบบช้าที่สุดเพราะวิวที่สามารถมองผ่านจากรถไฟจะทำให้คุณทึ่งในความสวยทุกอณูของประเทศเล็ก ๆ แห่งนี้ ตัวอย่างรถไฟสายดังได้แก่ รถไฟสาย “ Bernina Express & Glacier Express (เบอนีน่าเอ๊กเพรสและกลาเซียเอ๊กเพรส)” สุดโรแมนติกที่จะวิ่งผ่านเทือกเขา Alps ผ่านหุบเหวลึก สายน้ำใส สะพานสวย ปราสาทเก่า และเมืองสุดคลาสสิค

เที่ยวบ้านเขาแล้วอย่าลืมเรียนรู้มาใช้กับบ้านเรา

                หากเทียบความโชคดีที่คนสวิตเซอร์แลนด์มีธรรมชาติที่สวยงามแล้วละก็คนไทยเราก็โชคดีไม่แพ้กัน แต่สิ่งที่ทำให้สวิตเซอร์แลนด์ดูแลรักษาความงามของธรรมชาติไว้ได้อย่างน่าชื่นชมก็คือการมีจิตสำนึกรับผิดชอบและการมีระเบียบวินัยของผู้คน เราควรเรียนรู้สิ่งเหล่านี้และนำมาปรับใช้เพื่อให้ความงามของธรรมชาติในไทยสวยงามยั่งยืนได้ไม่แพ้กัน

เที่ยวแบบคนรักธรรมชาติสายหวาน ตามรอยดอกไม้ที่ผลิบานจากนวนิยายและวรรณคดี

ถ้าคุณเป็นนักท่องเที่ยวที่หลงรักการอ่านแล้วล่ะก็การได้ท่องเที่ยวตามนวนิยายที่ชอบหรือวรรณคดีเรื่องดังโดยเฉพาะการที่รอบตัวถูกรายล้อมไปด้วยดอกไม้แสนสวย อาจทำให้คุณดั่งตกอยู่ในห้วงแห่งฝันและดั่งได้เข้าไปสัมผัสฉากสำคัญต่าง ๆ ในเรื่องราวที่คุณได้อ่านมา

สถานที่รวมดอกไม้จากนวนิยายและวรรณคดีน่าประทับใจ

ดอกพญาเสือโคร่ง (ซากุระเมืองไทย) ดอกไม้สีชมพูกลีบบางที่จะเบ่งบานในช่วงเดือนมกราคม- กุมภาพันธ์ ดอกไม้ต้นแบบของดงชมพูป่าพยานรักของเจ้าน้อยและแม้นเมืองจาก นวนิยายอมตะอย่างรากนครา ซึ่งคุณสามารถไปเที่ยวชมดอกพญาเสือโคร่งแสนอ่อนหวานนี้ได้จากสถานที่หลายแห่ง ได้แก่ ขุนช่างเคี่ยน จ.เชียงใหม่, ดอยแม่ตะมาน หน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน จ.เชียงใหม่, ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่(ขุนวาง ) จ.เชียงใหม่, สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน จ.น่าน และภูลมโล จ.เลย

ดอกสุพรรณิการ์ (ดอกฝ้ายคำ) ดอกไม้สีเหลืองสดกลีบดอกงุ้มเข้าหากันรวมตัวเป็นพุ่มสีเหลืองสดใสเต็มต้น ดอกไม้แสนสวยในนิราศธารทองแดง ในเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศ (เจ้าฟ้ากุ้ง) โดยดอกสุพรรณิการ์จะเบ่งบานหลังจากต้นไม้ผลัดใบร่วงจนหมดในราวเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน ซึ่งคุณสามารถชมความสวยงามของพุ่มดอกสุพรรณิการ์ง่าย ๆ ได้จากถนนดอกสุพรรณิการ์ จ.นครนายก

ดอกราชพฤกษ์ (ดอกคูณ) ดอกไม้สีเหลืองอ่อนไปจนเหลืองสดทิ้งตัวบานระย้าสวยงามชื่นตาจากนิราศธารทองแดง ในเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศ (เจ้าฟ้ากุ้ง) โดยดอกราชพฤกษ์จะเบ่งบานในหน้าร้อนช่วงเดือนเมษายน ซึ่งคุณสามารถไปชมความงามได้ที่ถนนสายดอกคูณ จ.ขอนแก่น ซึ่งจะมีดอกราชพฤกษ์เรียงรายริมถนนหลายสายในจังหวัดขอนแก่น เช่น บริเวณมหาวิทยาลัยขอนแก่น หน้าศูนย์ราชการจังหวัด ถนนกัลปพฤกษ์ และสวยดอกคูริมบึงแก่นนคร

ดอกกระเจียว (ดอกบัวสวรรค์) ดอกไม้สีม่วงอ่อนอมชมพูสวยบอบบางในม่านหมอกที่สวยราวกับฉากหลังของเมืองในจินตนาการจากนวนิยายแฟนตาซีโรแมนติกชวนฝันอย่างดั่งดวงหฤทัย โดยคุณสามารถพาตัวเองไปเที่ยวชมความงามชวนฝันนี้ได้ในช่วงเริ่มเข้าฤดูฝนปลายเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมที่ ทุ่งดอกกระเจียว อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม และ อุทยานแห่งชาติไทรทอง จ.ชัยภูมิ

ดอกไม้ป่า ภาพดอกไม้ดอกเล็ก ๆ นานาพันธุ์ส่งกลิ่นหอมเย้ายวนใจออกดอกบานสะพรั่งพร้อม ๆ กันในช่วงปลายฤดูฝนอย่างเดือนตุลาคม เป็นอีกหนึ่งฉากอันสวยงามในนวนิยายเรื่อง ลี้ภัยในเมืองแปลก ชุดนวนิยายสำหรับเยาวชนรางวัลแว่นแก้ว โดยคุณสามารถไปเที่ยวชมดอกไม้ป่าได้ที่ ทุ่งดอกไม้ป่า อุทยานแห่งชาติผาแต้ม จ.อุบลราชธานี ซึ่งคุณจะได้พบกับดอกไม้นานาพันธุ์ อาทิเช่น หญ้าข้าวก่ำน้อย กระดุมเงิน กระดุมทอง หญ้าหนวดเสือ หญ้าฝอยเล็ก โคลงเคลง หงอนนาค แดงอุบล เอื้องเหลืองพิศมร และช้างน้าว

ดอกบัว ดอกไม้สุดคลาสสิคที่เติบโตและเบ่งบานบนผืนน้ำที่คุณคุ้นตาเป็นอย่างดี แต่หากคุณได้ลองสัมผัสความงามของดอกบัวแดง-บัวชมพูสุดโดดเด่นที่เบ่งบานแน่นขนัดในช่วงเดือนกุมภาพันธ์แล้วละก็ คุณจะต้องตกตะลึงในความสวยงามจากดอกไม้สุดคลาสสิคนี้ ดั่งที่นักประพันธ์หลายท่านได้สอดแทรกไปในนวนิยายและวรรณคดีหลายเรื่องตัวอย่างเช่น ขุนช้างขุนแผน ซึ่งเราสามารถชมความงามของดอกบัวแดง-บัวชมพูนี้ได้ที่ ทะเลบัวแดง-บัวชมพู จ.อุดรธานีและวังบัวชมพู จ.หนองคาย

ชื่นตาชื่นใจอย่าเผลอไปทำร้ายความงดงาม

                หากคุณได้มีโอกาสไปท่องเที่ยวชมดอกไม้งามชวนให้คุณชื่นตาชื่นใจแล้วละก็ อย่าเผลอไปเหยียบย่ำทำลายหรือเด็ดดอกไม้สวย ๆ จากที่ที่ควรอยู่เพียงเพราะอยากได้ภาพสวย ๆ เพียงอย่างเดียว เพราะคุณอาจเผลอไปทำร้ายและทำลายความงดงามตามธรรมชาติได้ เพื่อที่คุณจะได้มีสถานที่สวย ๆ ไว้ให้ชื่นชมไปอีกนาน ๆ

เที่ยวตลาดน้ำในไทย สัมผัสบรรยากาศแบบพื้นบ้าน

หากพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในไทยแล้ว ตลาดน้ำก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่จะพลาดไม่ได้เลย โดยวันนี้เราก็ได้รวบรวมตลาดน้ำที่น่าสนใจและควรไปเที่ยวดูสักครั้งมาแนะนำกันด้วย จะมีที่ไหนบ้างก็ต้องไปดูกันเลย

1.ตลาดน้ำอัมพวา

ตลาดน้ำที่มีชื่อเสียงและโด่งดังมากในจังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งก็มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาตินิยมมาเที่ยวกันอย่างแพร่หลาย โดยที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศพื้นบ้าน วิถีชีวิตแบบชาวบ้านริมน้ำ ทั้งยังมีอาหารพื้นบ้านสุดอร่อยให้ได้ลิ้มลองกันอย่างมากมาย ยิ่งหากมาเที่ยวในยามค่ำคืนด้วยแล้ว ก็จะมีบริการล่องเรือชมหิ่งห้อยอีกด้วย

2.ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง

ตลาดน้ำที่จะพาคุณไปสัมผัสกับบรรยากาศแบบชิล ๆ และเสน่ห์น่าหลงใหลที่จะทำให้คุณติดใจ โดยที่นี่นอกจากจะมีอาหารคาวหวาน และสินค้ามากมายให้ได้จับจ่ายใช้สอยกันอย่างเพลิดเพลินแล้ว ก็มีเก้าอี้ไม้ตัวเตี้ยให้คุณได้นั่งทานอาหารและพูดคุยกันอย่างสนุกอีกด้วย ซึ่งตลาดน้ำบางน้ำผึ้งก็ตั้งอยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการนั่นเอง ใครที่ผ่านมาทางนี้ก็ลองแวะมาเที่ยวกันดู

3.ตลาดน้ำทุ่งบัวแดง

อยากชมทุ่งดอกบัวสีแดงที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและสบายตา ก็ต้องแวะมาที่ตลาดน้ำทุ่งบัวแดงกันเลย ซึ่งต้องบอกเลยว่าที่นี่บรรยากาศดีมาก เหมาะกับการพาครอบครัวหรือคนรักมานั่งทานอาหารแบบชิล ๆ ที่สุด หรือจะมานั่งเล่น หยิบมือถือมาแทงบอล VWIN ก็ได้เหมือนกัน และอีกหนึ่งไฮไลท์เด็ดที่จะพลาดไม่ได้เลยเมื่อมาเที่ยวตลาดน้ำทุ่งบัวแดงก็คือการลิ้มลองอาหารพื้นบ้านของที่นี่นั่นเอง ไม่ว่าจะเป็น เฉาก๊วยโบราณ ไก่ย่างบางตาล หรือขนมครกชาววังและอีกมากมาย โดยขอการันตีเลยว่าอร่อยโดนใจอย่างแน่นอน

4.ตลาดน้ำดำเนินสะดวก

สำหรับตลาดน้ำแห่งนี้ก็คงไม่มีใครไม่รู้จัก ซึ่งใครที่เดินทางมาที่จังหวัดราชบุรี ก็ต้องแวะมาเที่ยวตลาดน้ำดำเนินสะดวกเสมอ โดยมีทั้งสินค้าของกิน ของใช้ และสินค้าหัตถกรรมให้เลือกซื้อมากมาย รวมถึงสินค้าของฝากก็มีให้เลือกกันแบบจุใจเช่นกัน โดยเฉพาะผักผลไม้ที่ต้องบอกเลยว่ามีความสดใหม่มาก เนื่องจากพ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่จะนำจากสวนมาขายโดยตรงนั่นเอง

5.ตลาดน้ำ 4 ภาคพัทยา

พัทยาเมืองท่องเที่ยวที่โด่งดัง ซึ่งนอกจากจะมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายแล้ว ก็มีตลาดน้ำที่เต็มไปด้วยบรรยากาศแบบพื้นบ้านให้ได้ลองไปสัมผัสกันอีกด้วย โดยตลาดน้ำ 4 ภาค จะรวบรวมของดีของเด่นจากทั้ง 4 ภาคมาขายที่นี่ ทำให้นักท่องเที่ยวไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงถิ่น แถมยังมีเรือพายไว้บริการสำหรับคนที่อยากล่องเรืออีกด้วย รับรองว่าหากได้ลองแวะมาเที่ยวที่นี่ดูสักครั้งคุณจะต้องชอบ

ต้องบอกเลยว่าในประเทศไทยของเรานี้มีตลาดน้ำให้เที่ยวมากมายจริง ๆ เพราะฉะนั้นอย่าพลาดที่จะลองแวะไปเที่ยวชมกันดู แล้วคุณจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตแบบบ้าน ๆ ที่จะทำให้คุณหลงใหลจนลืมไม่ลง

ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ Eco-Tourism การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

การท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่กำลังเป็นที่ตื่นตัวอยู่ในประเทศไทยขณะนี้ มีหลักการสำคัญ 2 อย่าง คือต้องเป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และเป็นการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวอันเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเศรษฐกิจแบบผสมผสานเข้ากับเรื่องของการอนุรักษ์ไว้ โดยใช้ทุนธรรมชาติอย่างน้อยที่สุดเพื่อส่งเสริมความมั่นคงยั่งยืน ป้องกันความเสื่อมโทรมของธรรมชาติและความเสียหายของระบบนิเวศ คืนประโยชน์ให้กับธรรมชาติและชุมชนท้องถิ่น

รู้จักกับรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงนิเวศให้มากขึ้น

การเดินเส้นทางธรรมชาติและการกางเต็นท์นอนพักแรม โดยมากการท่องเที่ยวลักษณะนี้จะกำหนดหรือแนะนำเส้นทางไว้ให้นักท่องเที่ยวเดินทางเพื่อชมธรรมชาติ เพื่อป้องกันการหลงทาง อุบัติเหตุอันตราย หรือเดินออกนอกเส้นทางไปทำลายพืชพรรณธรรมชาติ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินตามเครื่องหมายบอกทางและศึกษาธรรมชาติผ่านป้ายแนะนำให้ความรู้ต่าง ๆ ตัวอย่างการท่องเที่ยวด้วยการเดินเส้นทางธรรมชาติก็เช่น ในอุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า สวนพฤกษศาสตร์ ป่าพรุ หรือป่าชายเลน ส่วนการกางเต็นท์นอนพักแรมมักอนุญาตให้ทำในบริเวณอุทยานแห่งชาติที่กำหนดไว้ ทำให้ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น

การนั่งเรือแพท่องเที่ยว เป็นการท่องเที่ยวที่ค่อนข้างสบาย โดยนักท่องเที่ยวสามารถชมธรรมชาติ ภูมิประเทศ หรือวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของผู้คนริมน้ำได้ง่าย ๆ โดยการท่องเที่ยวด้วยการนั่งเรือแพนี้ค่อนข้างตอบโจทย์กับการท่องเที่ยวในประเทศไทยที่มีความใกล้ชิดกับสายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นแม่น้ำลำคลอง ทะเลสาบ อ่างเก็บน้ำ และท้องทะเล

การขี่รถจักรยานชมภูมิประเทศ นอกจากตอบสนองต่อเทรนด์รักโลกแล้วการท่องเที่ยวลักษณะนี้ยังตอบสนองต่อเทรนด์รักสุขภาพ เพราะได้ทั้งเที่ยวและออกกำลังกายไปในเวลาเดียวกัน ทำให้เป็นที่นิยมอยากมากในปัจจุบันโดยเฉพาะกับกลุ่มนักท่องเที่ยวในวัยหนุ่มสาว ซึ่งการท่องเที่ยวลักษณะนี้ค่อนข้างสะดวกมากเพราะสามารถเดินทางไปได้เกือบทุกสถานที่ ที่อนุญาตให้จักรยานผ่านได้เช่น ภูเขา ริมเขื่อน เลียบทะเล หรือรอบชานเมือง

การล่องแก่ง และ การพายเรือแคนูเรือคะยัก เป็นการท่องเที่ยวแบบผจญภัยในลำน้ำ โดยนักท่องเที่ยวสามารถนั่งในเรือยางขนาดเล็กหรือบนแพไม้ไผ่ล่องไปตามลำน้ำเชี่ยวกรากและหลบหลีกแก่งหรือโขดหินที่โผล่มาขวางทาง หรือจะเลือกเรือพายขนาดเล็กที่คงทนแต่เบาไม่ล่มง่ายอย่างเรือแคนูหรือเรือคะยักก็ได้ การท่องเที่ยวลักษณะนี้สามารถทำได้ตามลำน้ำทั่วไปแต่จะท้าทายมากขึ้นกับเหล่านักท่องเที่ยวที่รักการผจญภัยในลำน้ำที่มีแก่งหินพาดผ่านหรือน้ำค่อนข้างเชี่ยวกราด โดยนักท่องเที่ยวควรใส่เสื้อชูชีพทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย

การส่องสัตว์ ดูนก เป็นการท่องเที่ยวเพื่อศึกษาความเป็นอยู่และพฤติกรรมตามธรรมชาติของสัตว์ป่าและนกนานาชนิด โดยอาจใช้การมองจากกล้องส่องทางไกล หรือการส่องไฟฉายช่วงกลางคืนแล้วถ่ายภาพ ตัวอย่างการท่องเที่ยวรูปแบบนี้ก็เช่น ในอุทยานแห่งชาติเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุทยานนกน้ำ หรือสวนสัตว์เปิด

                การสำรวจถ้ำ น้ำตก ในประเทศไทยมีถ้ำและน้ำตกจำนวนมาก หลายแห่งได้รับการพัฒนาให้เดินทางเข้าไปสำรวจได้ง่ายขึ้น ซึ่งความสวยงามปนลึกลับของหินงอกหินย้อย เส้นทางในถ้ำและ แนวการกัดเซาะของน้ำตกและทะเลนี้เองที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้หลงเสน่ห์การท่องเที่ยวแนวนี้

ปลุกจิตสำนึกรักษ์โลกด้วยการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ผสมกับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนแบบเป็นมิตรต่อธรรมชาตินี้ นักท่องเที่ยวจะได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และสัมผัสกับธรรมชาติอย่างแท้จริง ทำให้การท่องเที่ยวนี้มีประโยชน์อย่างมาก เนื่องจากช่วยปลุกจิตสำนึกให้เราหันมาเห็นคุณค่าและรักษาสิ่งดี ๆ ที่มีมากขึ้น ถ้าคุณไม่เชื่อลองเริ่มท่องเที่ยวเชิงนิเวศสักครั้งแล้วคุณจะติดใจ

เที่ยวหน้าร้อนนี้ต้องหนีมานอนแพ หนีร้อนมาใช้ชีวิตติดน้ำกับเหล่าแพริมน้ำในเมืองไทย

อากาศร้อน ๆ แบบนี้มักทำให้หมดแรงและไม่อยากออกจากบ้านไปไหน จะดีแค่ไหนถ้าได้ตื่นนอนมาพร้อมกับสายน้ำเย็นรายล้อมรอบตัว บรรยากาศชิล ๆ มีวิวทิวทัศน์สวย ๆ อยู่ใกล้แค่หน้าต่างห้องนอน อยากกระโดดลงน้ำเมื่อไหร่ก็ทำได้ง่าย ๆ ช่วยให้ผ่อนคลายลงทั้งความร้อนและความเครียด ที่พักที่ดีงามได้ขนาดนี้ก็คือแพพักริมน้ำนั่นเอง ว่าแต่ที่ไหนบ้างนะที่มีแพริมน้ำสวย ๆ สุดฟินให้คุณได้ไปเช็คอิน

สถานที่รวมแพริมน้ำเมืองไทยสวยถูกใจไม่ไปไม่รู้

                เขื่อนเชี่ยวหลาน(เขื่อนรัชชประภา) สุราษฏร์ธานี 1 ใน 10 แหล่งธรรมชาติที่น่าท่องเที่ยวที่สุดในโลก จากนิตยสาร Lonely Planet ด้วยบรรยากาศสวย ๆ จากน้ำสีฟ้าสดสวยและใสสะอาด ขุนเขารายล้อมโอบรอบ ทะเลหมอกบาง ๆ ยามเช้าลอยอ้อยอิ่ง ทำให้เขื่อนเชี่ยวหลานสวยงามราวกับสรวงสวรรค์ และหากคุณได้มีโอกาสไปนอนค้างบนแพพักบนเขื่อนเชี่ยวหลานแล้วสักครั้งหนึ่ง คุณจะได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติอันงดงาม ดั่งจะได้ไปเยี่ยมเยียนวิมานสวรรค์บนโลกมนุษย์เลยทีเดียว

                เขื่อนศรีนครินทร์ กาญจนบุรี เขยิบเข้ามาใกล้กรุงเทพมากขึ้นจะพบกับเขื่อนที่เป็นแหล่งรวมแพพักริมน้ำสวย ๆ และธรรมชาติที่งดงามเอาไว้ ด้วยอากาศอันบริสุทธิ์ ผืนน้ำกว้างสุดสายตาเรียบสงบบรรจบกับภูเขาและหมอกจาง ๆ สุดโรแมนติก ทำให้คุณผ่อนคลายได้ง่าย อีกทั้งหลาย ๆ ที่พักยังมีกิจกรรมภายในเขื่อนให้ทำกันอย่างไม่รู้เบื่อ เชื่อว่าหากคุณได้ไปเยือนคงจะอยากหยุดเวลาเอาไว้ที่กาญจนบุรีเป็นแน่

                ริมแม่น้ำแควใหญ่และแม่น้ำแควน้อย กาญจนบุรี ความเงียบสงบเป็นส่วนตัวแต่พรั่งพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและกิจกรรมอันหลากหลายของเหล่าแพริมน้ำในแม่น้ำสายประวัติศาสตร์อย่างแม่น้ำแควใหญ่และแม่น้ำแควน้อย เป็นอีกหนึ่งความชิลที่คุณไม่ควรมองข้าม ด้วยวิวทิวทัศน์ที่มีทั้งแมกไม้เขียวชอุ่มและเทือกเขาเรียงราย อาจจะทำให้การพักผ่อนครั้งนี้ของคุณมีความสุขจนหลงลืมโลกภายนอกไปเลย

                เขื่อนแม่งัด เชียงใหม่ เมื่อขุนเขาอันสวยงามไม่ใช่แค่เสน่ห์ดึงดูดเพียงอย่างเดียวของเชียงใหม่อีกต่อไป ฉีกกฎเดิม ๆ เพิ่มเติมความสดชื่นจากสายน้ำเย็นด้วยการแวะมาเยี่ยมเยียนเขื่อนแม่งัด ที่ซึ่งมีแพพักริมน้ำซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางภูเขารายล้อม และวิวสวยระดับเวิลด์คลาส แค่ได้นั่งชิลกับเครื่องดื่มเย็น ๆ สักแก้ว สูดบรรยากาศริมน้ำแบบคำเมืองก็ทำให้คุณลืมความร้อนไปได้ไม่ยาก

เที่ยวแพเล่นน้ำอย่างปลอดภัยสวมใส่เสื้อชูชีพ

                เพราะความประมาทอาจทำให้ทริปของคุณหมดสนุกลงได้ง่าย ๆ หากคุณอยากไปเที่ยวหรือพักบนแพริมน้ำสวย ๆ  อย่าลืมคำนึงถึงความปลอดภัยเวลาออกไปว่ายน้ำหรือทำกิจกรรมในน้ำต่าง ๆ ควรสวมใส่เสื้อชูชีพเสมอเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอ เพื่อที่ทริปหนีร้อนไปนอนแพครั้งนี้ของคุณเป็นทริปที่ประทับใจไม่รู้ลืม

เที่ยวพิพิธภัณฑ์กองทัพไทย ตามรอยเหล่าทหารสามเหล่าทัพ

ประเทศไทยนับเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ของชาติอันยาวนาน และปฏิเสธไม่ได้ว่าสถาบันที่มีบทบาทสำคัญทางด้านการเมืองการปกครองเสมอมา คือสถาบันทหาร คนทั่วไปส่วนใหญ่อาจรู้เพียงว่าโดยหลักสากลโลกได้แบ่งสถาบันทหารหลัก ๆ 3 เหล่าทัพ ได้แก่ ทหารบก ทหารเรือ และทหารอากาศ แต่จะดีกว่าหรือไม่ถ้าเราได้เที่ยวย้อนอดีตและเข้าไปทำความรู้จักกับสถาบันที่ใกล้ชิดและสำคัญขนาดนี้มากขึ้น

พิพิธภัณฑ์กองทัพไทยน่าสนใจกว่าที่คิด

                พิพิธภัณฑ์กองทัพบกเฉลิมพระเกียรติ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นสถานที่ส่งเสริมการเรียนรู้ในความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ บทบาทของกองทัพบก และส่งเสริมอุดมการณ์รักชาติให้ผู้เข้าเยี่ยมชม โดยจัดแสดงเป็นอาคาร 3 ชั้น ภายในประกอบด้วยห้องจัดแสดงเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับกองทัพบก ตัวอย่างเช่น อาวุธปืนและอาวุธประเภทฟันแทงที่ใช้ในราชการสงครามตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น, ห้องจำลองเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์และวีรกรรมการรบในอดีต, ห้องจอมทัพไทย แสดงพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของมหาราช 10 พระองค์, ห้องบารมีปกเกล้าฯ จัดแสดงพระบรมรูปสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และห้องแสดงวิวัฒนาการกองทัพบกและประวัติผู้บัญชาการทหารบกในอดีต รวมถึงภาพ คทาจอมพล ซึ่งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณถนนราชดำเนินนอก กรุงเทพมหานคร และเปิดให้เข้าชมได้ตามเวลาราชการ

                พิพิธภัณฑ์กองทัพเรือ ปัจจุบันมีพิพิธภัณฑ์กองทัพเรือหลัก ๆ 2 แห่ง คือ “พิพิธภัณฑ์กองทัพเรือตำบลปากน้ำ สมุทรปราการ” ทำหน้าที่รวบรวมและอนุรักษ์วัตถุข้อมูลทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับกองทัพไทยมาตั้งแต่อดีต ตัวอย่างเช่น วัตถุพิพิธภัณฑ์สมัยโบราณ จำลองยุทธนาวีการรบครั้งสำคัญ เรือจำลองสมัยต่าง ๆ ทั้งในการรบและพระราชพิธี รวมไปถึงอาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ที่เคยใช้ในการรบ แต่เนื่องจากการจัดแสดงนิทรรศการเริ่มมีสภาพเก่าและอยู่ไกลจากกองบัญชาการกองทัพเรือ และมีโครงการย้ายกองเรือลำน้ำกองทัพเรือจึงได้ทำการย้ายพิพิธภัณฑ์ทหารเรือหลักมายังพื้นที่พระนิเวศน์ซึ่งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตรงข้ามกับพระบรมมหาราชวังเป็น “พิพิธภัณฑ์ทหารเรือ(แห่งใหม่) ณ กองเรือลำน้ำ กองเรือยุทธการ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร” ที่เพิ่งวางศิลาฤกษ์ไปเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2561 ซึ่งพิพิธภัณฑ์ใหม่นี้มีลักษณะเป็นอาคารอเนกประสงค์แสดงนิทรรศการ ประวัติและการปฏิบัติงานของกองทัพเรือ อีกทั้งยังเป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวสำหรับประชาชน ทั้งยังเป็นการปลูกจิตสำนึกรักชาติและเสียสละให้ผู้เข้าเยี่ยมชม โดยเปิดให้เข้าชมได้ตามเวลาราชการ

                พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศและการบินแห่งชาติ มีจุดมุ่งหมายเพื่อรวบรวมและเก็บรักษาอาวุธยุทโธปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องแบบ และอากาศยานที่เคยมีบทบาทในกองทัพอากาศมาตั้งแต่อดีต ให้เราได้เรียนรู้และตื่นตาไปกับความยิ่งใหญ่แบบเจ้าเวหาของไทย นอกจากนี้ยังมีเอกสารทางประวัติศาสตร์และพัสดุสำคัญอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกิจการการบิน นำมาจดแสดงให้ประชาชนได้เข้ามาศึกษาถึงตำนานกองทัพอากาศ เพื่อกระตุ้นให้ผู้เข้ามาเยี่ยมชมได้เรียนรู้และภูมิใจถึงเกียรติภูมิไทย โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณแขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร และเปิดให้เข้าชมได้ทุกวันอังคาร-อาทิตย์ 08.00-16.00 หยุดวันจันทร์และวันนักขัตฤกษ์

เรียนรู้ที่จะรักและภาคภูมิใจในความเป็นไทยผ่านการเที่ยวพิพิธภัณฑ์

 เป็นความโชคดีที่ทางกองทัพไทยทั้งสามเหล่าได้เปิดโอกาสให้ประชาชนได้เข้าไปใกล้ชิดมากขึ้นผ่านพิพิธภัณฑ์หลักของกองทัพที่ตั้งอยู่บริเวณกรุงเทพและปริมณฑล ให้เราได้มีโอกาสเข้าไปเรียนรู้ว่าประเทศไทยเคยต้องผ่านวิกฤติและความยากลำบากจากสงครามมามากมายเพียงใดกว่าที่เราจะมีแผ่นดินไทยที่มั่นคงนี้ให้เราได้รักและภาคภูมิใจ นึกถึงสถานที่เที่ยวครั้งถัดไปอย่าลืมแวะไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ของสามเหล่าทัพ